รีวิว Your Name Engraved Herein

 

รีวิว Your Name Engraved Herein01

 

ขอต้อนรับ The International Day Against Homophobia, Transphobia and Biphobia (วันต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อคนรักร่วมเพศและคนข้ามเพศสากล) ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2021 นี้ ด้วยการแนะนำภาพยนตร์ LGBTQ+ สัญชาติไต้หวันที่ควรดู การันตีรางวัล Best Cinematography และ Best Original Film Song จาก GOLDEN HORSE AWARDS 2020 เรื่อง “Your Name Engraved Herein ” หรือชื่อภาษาไทยว่า “ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ”ที่ได้ออกอากาศผ่าน NETFLIX ไปเมื่อ 23 ธันวาคม 2020 ที่ผ่านมานั่นเอง

ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้อยู่ที่ว่าเพราะการเล่าความเป็นไต้หวัน หรือเรื่องราวความรักของ LGBTQ+ ก่อนที่จะมาเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีกฎหมายรับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน (Same-Sex Marriage) แต่เป็นการนำเสนอความสัมพันธ์ ของคนใน LGBTQ Community ที่ไม่ได้รับการยอมรับกันในสังคม และถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดบาปผ่านบริบทและโครงสร้างทางสังคมในช่วง 1980s ของไต้หวันในอดีต ที่ทำให้เห็นแตกต่างจากไต้หวันในปัจจุบันนั่นเอง ดูหนังฟรี

 

รีวิว Your Name Engraved Herein02

 

รีวิว Your Name Engraved Herein

เป็นอีกเรื่องที่ดูจบแล้วอยากปรบมือให้คนทำ มีรางวัลอะไรเอาไปให้หมด (ซึ่งจริงๆได้ข่าวว่าได้รางวัลม้าทองคำมาแล้ว ซึ่งเป็นรางวัลทรงเกียรติสูงสุดของภาพยนตร์ที่ใช้ภาษาจีน)
นี่เป็นหนังท้ายปีอีกเรื่องที่ขโมยหัวใจไปได้อย่างไร้ข้อกังขา ถือว่าสมคำร่ำลือจริงๆ หลังจากที่คนที่ดูมาแล้ว หลายคนเริ่มมา hype ผ่านๆหน้าเฟสเราในช่วงสามสี่วันให้หลังมานี้ จนต้องรีบปิดหูปิดตามาดู และพบว่า “ของจริงว่ะ”
เป็นหนัง Lgbtq สัญชาติไต้หวัน ที่เลยคำว่าหนัง Yตลาด และเล่าเรื่องสนุก งดงาม น่าติดตามตลอดเรื่อง แถมยังมีประเด็น ทางประวัติศาสตร์ช่วงที่ประเทศเปลี่ยนแปลงการปกครอง ยกเลิกกฏอัยการศึก เป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านจากอนุรักษ์นิยม สู่ประชาธิปไตยหัวก้าวหน้าที่เปิดโลกเสรีทางความคิด และเคารพในความเท่าเทียมทางเพศ
หนังว่าด้วยเรื่องราวชีวิตของเด็กหนุ่มสองคน ที่ได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนจะค้นพบความสัมพันธ์ที่เป็นทั้งมิตรภาพ และรักแท้ ที่ต้องผ่านเหตุการณ์และบททดสอบมากมายที่จะทำให้พวกเขาต้องกลับไปในครรลองสังคม หรือแม้แต่มีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้อง  แต่มุมมองการนำเสนอเรื่องนี้ มีประเด็นใหม่มี่เชื่อว่ายังไม่เคยเห็นผ่านหนังแนวนี้เรื่องไหนมาก่อน

 

รีวิว Your Name Engraved Herein03

 

โดยเฉพาะ พาร์ทช่วงผู้ใหญ่ ที่มีบางประโยคที่น่าจะจึ๊กเข้าไปในใจใครหลายคนแน่นอน และในช่วงวัยรุ่น นักแสดงทุกคนก็ถ่ายทอด บทบาทออกมาได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ขนลุกในเรื่องราวที่เรียบง่าย มีความสัมพันธ์ทั้งที่เรื่องราวในโรงเรียน เรื่องราวในครอบครัว ประเด็นความสับสนในชีวิต รวมถึงตัวละครที่เป็นที่พักใจของตัวเอกอย่างบาทหลวง ก็เซตอัพไว้ได้ดีงามมากๆ และหนังถ่ายทอดแบบจัดเต็มไม่ปรานีประนอม แล้วยังได้งานด้านภาพที่โคตรยอดเยี่ยม และเพลงที่โคตรเพราะจับใจ จนแทบน้ำตาไหลตาม รวมถึงสกอร์เหงาๆแต่โคตรมีพลัง
นี่คือหนังที่เราจะได้เรียนรู้ว่า
“ทำไมรักของคนบางคนจึงเป็นดั่งบาป?”
“ทำไมความอิจฉาจึงเป็นดั่งงูพิษที่กัดกินหัวใจเรา?”
“ทำไมการใส่ใจ จึงไม่ได้แปลว่ารัก?”
“และทำไมถ้าเขาไม่รัก เราจึงไม่ควรฝืนใจบังคับเขา?”

 

 

และในการที่เราอยู่กับปัจจุบัน ทำไมจึงไม่อาจลบเลือนเรื่องราวในอดีตไปได้ เราควรปล่อยมันไปหรือควรกลับไปทำอะไรสักอย่างกับความสัมพันธ์ที่ยังค้างคากับใครสักคนที่อยู่ในห้วงเวลาสักห้วงในชีวิต เพราะใครจะรู้  ว่าใครคนนั้น อาจจะยังคงเฝ้ารอคำตอบตรงที่เดิมเสมอมา ต่อให้เวลาจะผันผ่านไปกี่สิบปีแล้วก็ตาม
เพราะบางคน ก็มีที่สลักชื่อคนรักไว้ในใจได้แค่คนเดียว ผ่านไปนานแค่ไหน เวลาก็ไม่อาจทำให้เราลืมกัน โคตรดี บอกไว้ล่วงหน้าเลยว่าหนังจบ อารมณ์ยากที่จะจบตาม เพราะเรื่องราวที่หนังมอบให้ คือความจริงใจที่ผู้กำกับได้เลือกสรรเรื่องราว ในวัยเด็กของตนเองมาถ่ายทอด เพื่อบอกว่า ความรักในแบบที่พวกเขารักกัน มันไม่ได้แตกต่างหรือด้อยค่าไปมากกว่ารักชายหญิงเลย เราควรต้องหาคำนิยามถึงความเหมาะสมในการมีความรักอีกหรือ ในเมื่อเวลามันเกิดขึ้น รักก็คือรัก ในแบบที่ต่อให้หนีไปไกลแค่ไหน ก็ไม่อาจหลอกตัวเองไม่ให้รู้สึกได้แม้แต่วินาทีเดียว ดูหนังออนไลน์

 

สำหรับ Your Name Engraved Herein เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราว ของเด็กหนุ่มวัยมัธยมปลาย สองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันในในยุค 80s ภาพยนตร์บอกเล่าความสัมพันธ์ ของตัวละครระหว่าง Chang Jia-han (A-han) และ Wang Bo Te (Birdy) ฟังดูเหมือนจะเป็นเพียงภาพยนตร์ coming of age ทั่วไปที่เริ่มต้นเรื่องราว ด้วยมิตรภาพ ความบ้าบิ่นของวัยเยาว์ ก้าวข้ามผ่านความสับสนทางความรู้สึกแปรเปลี่ยน เป็นความรัก แต่มันอาจเกินความคาดหมายของคุณ เพราะเนื้อหาของหนังที่มีความยาวเกือบสองชั่วโมง นั้นมีการสอดแทรกประเด็นที่น่าสนใจ สภาพสังคมของไต้หวัน ในยุคเก่าที่ยังไม่มีการตื่นตัวทางสังคม ยุคที่การรักร่วมเพศ เป็นสิ่งต้องห้าม ผ่านเรื่องราวภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ ของไต้หวัน โครงสร้างทางสังคมที่เข้มงวด และประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน ที่เกิดขึ้นในยุคของการเปลี่ยนผ่านระบอบการปกครอง จากยุคเผด็จการที่เปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยได้อย่างน่าสนใจ วันนี้เราจึงขอหยิบยกบางประเด็นที่ได้วิเคราะห์ไว้มาให้ได้อ่านกัน รีวิวหนังวาย

 

 

ภาพยนตร์เริ่มต้นเรื่องราวในปี 1987 ซึ่งในปีนั้นไต้หวัน เพิ่งมีการยกเลิก “กฎอัยการศึก” (martial law) หลังจากที่ถูกประกาศใช้มาอย่างยาวนานกว่า 38 ปี (1949 – 1987) ที่ไต้หวันถูกปกครองแบบเผด็จการ ภายใต้การนำของรัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋ง (Kuomintang; KMT) ที่เป็นพรรคการเมืองแนวอนุรักษนิยม ของสาธารณรัฐจีน

ขอเล่าย้อนไปในยุคก่อนหน้า ที่มีการปกครองรูปแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ ในไต้หวันที่มีการสืบทอดอำนาจทางการเมือง การใช้อำนาจควบคุมและผลิตสื่อการโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) รวมถึงจำกัดเสรีภาพของประชาชน ห้ามไม่ให้มีการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ทำให้เกิดอุบัติการณ์ 228 ที่ชาวไต้หวันที่เสียชีวิตจากการสังหารหมู่ ที่มีการคาดการประมาณ 28,000 คน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ White Terror ในปี 1947 ที่รัฐบาลเริ่มปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมือง เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงและเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ จนกลายเป็นแรงผลักดัน ให้เกิดขบวนการเรียกร้องเอกราชไต้หวันขึ้น จนในที่สุดรัฐบาลต้องมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อควบคุมอย่างยาวนาน จึงทำให้ไม่มีใครสามารถพูดถึงอุบัติการณ์ 228 ได้อีก ดูหนังออนไลน์

 

 

แม้ในเรื่องจะมีการกล่าวถึงการยกเลิกกฎอัยการศึกที่ทำให้เห็นว่าสังคมในยุคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือปรับเปลี่ยนกระบวนการแล้ว ผู้คนในไต้หวันเริ่มมีความหวังในการออกมาเคลื่อนไหวทางสังคม แต่ความจริงแล้ว แนวคิดของระบบ อคติ และความเชื่อในบางสิ่งที่ฝังรากลึก มันไม่ได้หายไปในทันทีชั่วข้ามคืน

เหมือนที่ Birdy ได้พูดอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมโดนจำกัดสิทธิโดนห้ามไม่ให้ร้องเพลง ไหนบอกยกเลิกกกฎอัยการศึกแล้ว? แต่ A-han ตอบกลับไปว่า…

“Do you think the world has changed? Actually, it hasn’t changed a bit.”
-นายคิดว่าโลกเปลี่ยนไปแล้วเหรอ? ที่จริงมันไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด-

เมื่อเดินทางมาถึงครึ่งหลังของภาพยนตร์ ที่พาเราเดินทางมาสู่สังคมไต้หวันในยุคปัจจุบันที่กลายเป็นประเทศที่เปิดกว้างในเรื่องของ LGBTQ+ มากที่สุดในเอเชีย เป็นชาติแรกในเอเชียที่การแต่งงานระหว่างคู่รักเพศเดียวกันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ซึ่งมันแตกต่างจากเมื่อ 30 ปีก่อนราวฟ้ากับเหว และบทสรุปของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่า “รักแรกของทุกคนยิ่งใหญ่เหมือนหนังฟอร์มยักษ์ ที่เมื่อเลือกที่จะรักแล้วย่อมรักไปชั่วนิรันด์ ตราตรึงและฝังลึกเข้าไปในความทรงจำ และไม่ว่าใครก็ไม่อยากที่จะมีความรักที่ต้องหลบซ่อน“

ใครที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศย่อมตกเป็นเป้าของสังคม ต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้ง ดูถูกเหยียดหยาม นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมสมัยนั้น ทำให้อาฮั่นและเบอร์ดี้ต้องปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองเอาไว้จากสังคมโดยรอบ เพราะในยุคนั้นการเรียกร้องสิทธิเพื่อคนรักเพศเดียวกัน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยในสังคมไต้หวัน ซึ่งว่ากันตามจริงแล้ว ก็เป็นแบบนี้กันทั่วเอเชียตะวันออกนั่นแหละนะ ดูหนังฟรี

 

 

สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ควรค่าแก่การดูหรือไม่

สรุปแล้วว่า ฉากแต่ละฉากที่ภาพยนตร์สื่อสารออกมา สามารถเรียกน้ำตาและความรู้สึกร่วมออกมาได้ง่าย ๆ ในส่วนนี้นักแสดงและบทมีส่วนทำให้เกิดความรู้สึก นั้นเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเนื้อหาจะเน้นหนักไปที่ช่วงชีวิตวัยเด็ก โดยปล่อยให้อีกช่วงวัยหนึ่งกลายเป็นบทสรุป ก็ถือเป็นคำถามที่เรารู้คำตอบดีอยู่แล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องล่วงรู้ชีวิตที่ผ่านมาของพวกเขา นักแสดงวัยผู้ใหญ่ออกมาปิดจ็อบในช่วงไม่กี่นาทีได้ดีเลยทีเดียวเชียวล่ะครับ กับประโยคที่ว่า “ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าอีก 30 ปีข้างหน้าโลกจะเปลี่ยนไปขนาดนี้”  สรุปโดยรวมแล้วหนังวายเรื่องนี้ควรค่าสแก่การดูยิ่งนัก สามารภติดตาม การรีวิวหนังวายสนุกๆมากมายหลายเรื่องราวกันได้ที่นี่ รีวิวหนังวาย

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *