รีวิว Sex Education Season3
อลิสแตร์ เพทรี รับบทเป็น ไมเคิล กรอฟฟ์ อาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนมัธยมมัวร์เดลและพ่อที่เข้มงวดของอดัม
Emma Mackey เป็น Maeve Wiley
Patricia Allison เป็น Ola Nyman
Ncuti Gatwa เป็น Eric Effiong
Connor Swindells เป็น Adam Groff
เคดาร์ วิลเลียมส์-สเตอร์ลิง รับบท แจ็คสัน มาร์เค็ตติ
เอมี่ ลู วูด รับบท เอมี่ กิ๊บส์
ทันย่า เรย์โนลด์ส รับบท ลิลี่ อิเกิลฮาร์ต
มีมี่ คีน รับบทเป็น รูบี้ แมทธิวส์
Chaneil Kular รับบทเป็น Anwar
Simone Ashley เป็น Olivia Hanan
James Purefoy เป็น Remi Milburn พ่อของ Otis และสามีเก่าของ Jean
Mikael Persbrandt เป็น Jakob Nyman , พ่อของ Ola
Anne-Marie Duff ในบท Erin Wiley, Maeve และแม่ของ Sean
รีวิว Sex Education Season3
สำหรับเนื้อหาในซีซััน 3 ก็จะดำเนินต่อจากซีซันที่แล้ว ที่มีเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งการทะเลาะวิวาทกันระหว่างเมฟกับโอทิส และการมูฟออนไปคบหากับสาวฮอตประจำโรงเรียนของฝ่ายหลัง การตัดสินใจคบหากันระหว่างอีริกกับอดัม และความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของ ดร.จีน คุณแม่ของโอทิสที่กำลังตั้งครรภ์และนำไปสู่การร่วมชายคา ระหว่างโอทิสกับโอลาอดีตคนรักอีกครั้งนั่นเอง ดูหนังออนไลน์
ซึ่งในส่วนของตัวละครวัยรุ่นและความสัมพันธ์สุดว้าวุ่นของพวกเขาเองก็ยังคงน่าสนใจและชวนติดตามในทุกตอนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ดูเหมือน ลอรี นันน์ (Laurie Nunn) ดูจะหนักข้อเป็นพิเศษในซีซันนี้เห็นจะเป็นเรื่องของการมอบมุมมองการเติบโตทางความคิดในเรื่องเพศศึกษาต่อผู้ใหญ่ตั้งแต่การมาถึงของครูใหญ่คนใหม่อย่าง โฮป แฮดดอน (รับบทโดย เจไมมา เคิร์ค – Jemima Kirke) ที่พยายามกอบกู้ภาพลักษณ์โรงเรียนด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาดที่ขัดกับธรรมชาติและอุดมการณ์ของวัยรุ่นในโรงเรียนมัวส์เดล
ดังนั้นนอกจากเส้นเรื่องหลักของโอทิสกับเมฟที่มีเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวพัน กับครอบครัวกันทั้งคู่ เป็นเส้นเรื่องหลักแล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ความเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนนั่นเอง กลับกำลังตบหน้าผู้ใหญ่ในสังคม ให้ตื่นมายอมรับในความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทั้งการพูดถึงอัตลักษณ์ และตัวตนของนักเรียนที่เป็น นอนไบนารี (Non-Binery) หรือแบบไม่ระบุเพศ หรือในสมัยนี้อาจเรียกว่าเควียร์ ไปจนถึงรสนิยมทางเพศที่เน้นแฟนตาซี หลุดโลก ที่กลายเป็นการโยนคำถามใหญ่ ๆ ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง และครูในการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และชี้ทางหาคำตอบให้เยาวชนในวัยเจริญพันธุ์ได้ดีทีเดียวเชียวแหละ ดูหนังฟรี
แม้จะลดโทนความเซ็กซี หรืออีโรติกลงมาจากซีซันแรกค่อนข้างเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอารมณ์โรแมนติก และการถ่ายทอดความอีโรติกของซีรีย์ ทำได้สวยงามและดูเติบโตมากขึ้นทั้งคู่ชายหญิงอย่างโอทิสกับรูบีสาวฮอตประจำโรงเรียน ที่ดูวาบหวามแม้ไม่โจ๋งครึ่มนัก แต่ก็ยังดูเซ็กซีจากหน้าตาและรูปร่างของมีมี คีน (Mimi Keene) ไปจนถึงคู่ชายชายอย่างอีริกกับอดัมที่ไม่เน้นความโป๊ แต่กลับดูสวยงามและช่วยทะลายอคติ หรือการตีตราเรื่องรุก- รับที่คนดูมีต่อเซ็กส์ของคู่รักเกย์ได้อย่างราบคาบเลยทีเดียวเชียวแหละ
เราชอบที่ซีรีย์ พาเราเข้าไปสัมผัสถึงเรื่องราวในใจของตัวละคร ให้ลึกขึ้นกว่าเดิมมาก มันยังคงกิมมิกความเป็น ‘sex’ education ในรูปแบบของตัวเองเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือเรื่องราวในด้านอื่นๆ เป็นซีซันที่ประเด็นเยอะมาก ด้วยความที่ตัวละครเยอะอยู่แล้ว แต่ละตัวละครก็มีแบ็กกราว มีสตอรี่เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน มันยิ่งทำให้สิ่งนี้น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก
เรามองว่าเป็นซีซันที่เคลียร์ปมได้ค่อนข้างกระจ่าง พาเราไปเข้าใจมุมมองของแต่ละฝ่าย อย่างชัดเจนและคาดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าจะมาจุดๆนี้อยู่ ซึ่งถ้าสมมติซีรีย์มันจะจบลงที่ซีซันนี้ เราก็คิดว่ามันเป็นการปิดฉากหนึ่งในตำนาน original netflix ที่ดี และสมบูรณ์แบบในตัวเองแล้วนั่นเอง
สิ่งที่ชอบมากๆ ใน sex education คือตัวละคร นักแสดงแต่ละคนถ่ายทอดบทบาทอันมีเอกลักษณ์ของตัวเองได้ดูดีและน่าจดจำทุกตัว ทุกคนมีซีนที่น่าจดจำเป็นของตัวเอง และเราตกหลุมรัก เข้าใจ และอยากรู้จักพวกเขาทั้งหมด เสน่ห์บางอย่างในบทบาทของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูดคนดูอย่างเราให้อยู่ด้วยกันยาวนานขนาดนี้ ตัวละครที่เราชื่นชอบมากๆ คือรูบี้ อดัม และลิลลี่ เราคิดว่าเป็นสามตัวละครที่ชวนเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเรื่องและตัวซีรีย์เองก็ถ่ายทอดมิติของตัวละครเหล่านี้ออกมาได้ชัดเจน โดยเฉพาะลิลลี่ เราคาดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะมีซีนของตัวละครนี้ชัดๆ ขนาดนี้ ชอบมากจริงๆ ดูหนังออนไลน์
เราชอบบรรยากาศในเรื่องมากๆ โลเคชันสวย วิวดี เพลงเพราะ มู้ดแอนด์โทนของซีรีย์มันทำให้เรารู้สึกดีและสบายใจที่ได้ดู แต่ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าว่าซีซันแรกโทนสีของซีรีย์เรื่องนี้มันสดใส ดูแล้วอารมณ์ดีมากกว่าซีซันสามนี้มากๆ ซีซันนี้โทนมันไม่ได้ส่องสว่าง สดใสแบบภาพจำที่เราเคยนึกออก มันดูเข้มขึ้น จริงจังขึ้น ไม่รู้เป็นเพราะสิ่งนี้ด้วยรึเปล่าที่มันยิ่งทำให้หัวใจบีบแรงเข้าไปอีก เข้มข้นมากจริงๆ เวปดูหนังฟรี
ตัวละครในซีรีย์เรื่องนี้
เมฟ
แมวดำคงเส้นคงวามาก ดีใจที่ได้เข้าใจโอทิสเสียที แต่ตอนจบแบบ อิหยังวะ ได้ข่าวว่าEmma จะไม่กลับมาเล่นแล้ว? ไม่แน่ใจว่าเป็นสาเหตุที่ต้องจบแบบนี้หรือเปล่า
โอทิส
คนแก่ในร่างเด็ก ถึงจะหลงแสงสีไปบ้าง แต่ก็ยังมีประโยคดีๆ ที่แสดงให้เห็นความคิดถึงคนอื่นอย่างมากมาอยู่เรื่อยๆ เราชอบตอนแนะนำอดัม ว่าการพูดตอนคนอื่นหลับตาหรือหันหลัง อาจจะสบายใจเพราะไม่ถูกobserved เป็นทั้งการระบาย และการฝึกสื่อสารเบื่องต้น ดีกว่าอดัมไปเขวี้ยงจานตั้งเยอะ
รูบี้
ไม่สงสัยเลยว่าทีม โอทิส-รูบี้ เยอะมาก หนุ่มเนิร์ดกับสาวเปรี้ยว อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักจริงๆ นางได้ใจเราไปเต็มๆตอนแลกกับHopeไม่ให้ดึงปลั๊ก คนเขียนบทรักนางมาก ไม่เหลือรูบี้ที่มีข่าวเสียหายซีซัน2เลย
ไอแซค
ตอนซีซัน 2 เกลียดขี้หน้าตานี่มาก พอมาซีซันนี้ก็ว่าเออ ตานี่ก็ดีเลวเหมือนๆพวกเราคนทั่วไปนี่แหละ ความดีงามของหนังฝรั่งและการ์ตูนฝรั่งคือการinclude คนที่มีข้อจำกัดเข้ามา แต่ไม่ได้ให้ค่ากับข้อจำกัดเค้าเลย ในเรื่องไม่มีใครล้อ ตอนmake outกับเมฟ ก็เต็มไปด้วยความเข้าใจและช่วยเหลือกัน
เอมี่ส์
รักนาง ถ้า Legally Blonde สร้างใหม่นางต้องได้เป็นนางเอก ในความเป็น Yes(wo)Man เติบโตขึ้นมากๆจากSSแรก ถ้าถามเรา เอมี่ส์กับอดัมนี่เป็นคนที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนมากๆ ชอบแฟนนางดูเป็นคน ปกติไม่กี่คนในเรื่อง
อดัม
ซีซันนี้ขอเทใจให้ ไม่รู้ว่าบทหรือคนเล่น เราชอบเค้าในความเป็นคนๆนึง เอาใจช่วยให้ก้าวผ่านปม สมหวัง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพศอะไร แสดงได้น่าสงสารมาก
อิริค
ซีซันนี้มีหลายด้านมาก แอบกลัวตอนที่นั่งแทกซี่ในไนจีเรีย โนวว์ นี่จะกลายเป็นseriesฆาตรกรรมรึเปล่านี่
ฮาริม
ความหล่อกับความเหมือน Spock มีเส้นบางๆกั้น โชคดีที่ฮีไม่ได้ข้ามเส้นนั้น ดูเป็น LGBT ที่เข้าใจโลก และมีวุฒิภาวะ สารภาพมาว่าใครไม่เชียร์ อดัม-ฮาริม
ลิลลี่-โอล่า
เป็นคู่ที่เราอินน้อยที่สุด ชอบที่บทพยายาจะให้เข้าใจคนที่มีความชอบของแปลก ว่าความหมกมุ่นก็คือ Escape อย่างนึง แค่สิ่งที่เค้าเลือกไม่เหมือนเราเท่านั้นเอง
โฮป
เลือกคนแสดงได้ดี และแสดงได้ดีมาก Pain in the ซีซันนี้สุดๆ เราตกใจตัวเองอย่างนึงว่า ไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่โฮปทำมันผิด พอย้อนดูถึงรู้ว่า เราถูกสอนในโรงเรียนแบบโฮป style! แต่พอดีไม่ได้มีอัตลักษณ์มาก เลยไม่ได้กดดันอะไร
ดร. จีน มิลเบอร์น
นางเป็นคนที่ทำให้เราดูเรื่องนี้ ในฐานะวัยรุ่นสมัยก่อนที่มีปัญหาระดับนึง เราชอบดูเมฟ โอทิส รูบี้ แต่ในฐานะเป็นแม่คนนึง เราชอบดูแนวคิดจีน ใครๆอาจจะคิดว่าเวลาคุยกับนางเหมือนถูกบำบัดตลอด แต่เราชอบที่คำถามของนาง หมายความว่านางเป็นแม่ที่ฟัง ในฐานะผู้หญิง นางอาจจะมึนๆ แต่ในฐานะแม่ เราว่านางคือไอดอล ไม่ตัดสินจนกว่าจะได้ฟัง ห่วงอยากยุ่งย่ามก็ทำไปนิดหน่อยแล้วก็หยุดได้เอง ไม่ค่อยเห็นนางสติขาดแต่ชอบตอนที่ด่าหมอ ultrasound มาก รีวิวหนังวาย
สรุปเรื่องราวต่างๆของซีรีย์เรื่องนี้
สำหรับ Sex Education เป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ Otis เด็กหนุ่มผู้อยากใช้ชีวิตธรรมดาๆ แต่กลับมีแม่เป็นนักบำบัดทางเพศ จนกระทั่งโชคชะตาได้นำพาให้เขามาพบกับ Maeve หญิงสาวผู้มีข่าวลือเรื่องผู้ชายเป็นประจำ และชักนำให้ Otis ร่วมมือกันก่อตั้งคลินิกบำบัดทางเพศขึ้นในโรงเรียน
สุดท้าย เราว่าสิ่งที่เราชอบมากที่สุดใน sex education ตั้งแต่ซีซันแรกมาจนถึงตอนนี้คือ ‘ความสบายใจ’ เราชอบซีนที่มีการบำบัดมากๆ เหมือนคนดูเองก็ได้รับการบำบัดไปกับตัวละครด้วย และทุกการบำบัดของทั้งจีนหรือโอทิส มันเต็มไปด้วยความเข้าใจ พลังงานบวก การซัพพอร์ตและพร้อมจะอยู่เคียงข้าง ไม่ตัดสินสิ่งที่ได้ยินมา ซึ่งมันมีความหมายมากๆ สำหรับเรา sex education เป็นเหมือนพื้นที่ปลอดภัยให้คนดู เหมือนเราได้เข้าไปบำบัดกับโอทิส ตามดูชีวิต เรื่องราว และปัญหาของคนกลุ่มนึง และเรารับฟังพวกเขา และในบางเรื่องที่มันข้องเกี่ยวกับชีวิตเราเอง เราก็รู้สึกได้ว่าพวกเขาก็รับฟังเราอยู่เช่นกัน รีวิวซีรีย์วาย