รีวิว Happy Together (1997)
เรื่องนี้เล่าเรื่องของเยี่ยฟา กับหวังเป่า คู่รักชายชาวฮ่องกง ที่หอบเสื่อผืนหมอนใบไปอาร์เจนติน่า เพื่อหวังจะได้ไปยืนดู น้ำตกอีกัวซูร่วมกัน ก่อนจะถังแตกและต้องปักหลักหาเลี้ยงชีพ อยู่ในต่างบ้านต่างเมืองไปตามยถากรรม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นในแบบรัก ๆ เลิก ๆ ทั้งรักทั้งเกลียด ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด ทุกครั้งหวังเป่า มักจะเป็นฝ่ายบอกเลิกกับ เยี่ยฟาเสมอ ก่อนจะกลับมาง้อขอ “เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง” ซึ่งเยี่ยฟา ก็ต้องอ่อนแอแพ้ทางให้ทุกครั้งไป จนกระทั่ง เยี่ยฟา ได้พบกับอาเจิน เด็กหนุ่มชาวไต้หวัน ที่มาทำงานพิเศษหาเงินเที่ยวไล่ตามความฝัน ซึ่งความสดใส และความพิเศษบางอย่างในตัวอาเจิน ก็ทำให้เยี่ยฟา ตัดสินใจบางอย่างต่อความสัมพันธ์อันเปราะบาง ระหว่างเขากับหวังเป่า รีวิวซีรีย์วาย
- แนว: Drama, Romance
- นักแสดงนำ: Leslie Cheung, Tony Chiu-Wai Leung, Chen Chang
- ความยาว : 1 ชั่วโมง 36 นาที
- IMDb: 7.8/10
รีวิว Happy Together (1997)
ช่วงนี้ ทางสหมงคลฟิล์มฯ เขาเอาภาพยนตร์สุดขึ้นหิ้งของผู้กำกับชื่อดังมากๆอย่าง หว่องกาไว เข้ามาฉายในเมืองไทยกันถึง 5 เรื่อง ทั้งหมดล้วนเป็นหนังเก่าที่นำมารีมาสเตอร์ใหม่ให้เป็นดิจิตอลและชัดระดับ 4K หลังเคยได้ลิ้มรส และรู้จักกับความสัมพันธ์ของสองคน เหงากันไปแล้วใน In the Mood For Love วันนี้ ได้เวลาเดินเข้าไปหาอีกหนึ่งเรื่อง Happy Together ชื่อหลายคนเคยคุ้น เป็นหนังเอเชียที่บอกเล่าเรื่องราวในแนวๆ LGBTQ เรื่องแรกในยุค 90’s เลย โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา ชื่อไทยที่สุดโรแมนติกของเขาแล้วล่ะครับ
งานนี้ มีนักแสดงนำเป็นดาราซูเปอร์สตาร์ ของเอเชียในสมัยนั้น ที่ตกปากรับคำหรือตกกระไดพลอยโจน ก็ไม่ทราบได้ เขาคือ เหลียงเฉาเหว่ย และ เลสลี จาง ที่ต่างก็มาสวมบทบาทของชายรักชายในหนังรักเหงาๆ ของคนสองคนในเมืองบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา ดูหนังออนไลน์
ดั้นด้นไปถ่ายทำไกลถึงขนาดนั้น และกลายเป็นหนังที่ผู้คนล้วนจดจำถือว่าคุ้มค่านะ
และแล้วเราก็เดินทางมาถึง The World of Wong Kar Wai’s Retrospective เรื่องที่ 2 กับ Happy Together หนังหว่องกาไวกับรางวัลเกียรติยศ อย่างผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 1997 ปีเดียวกับเหตุการณ์คืนเกาะฮ่องกง จากอังกฤษสู่จีนแผ่นดินใหญ่และจากความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนผ่านจากโลกเสรี แบบอังกฤษสู่ฮ่องกงภายใต้การนับวันรอเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ก็ทำให้ Happy Together กลายเป็นบทบันทึกการเมืองระดับปัจเจก ที่แฝงอยู่ในเนื้อหาหนัง LGBTQ เรื่องนี้อย่างล้ำลึก
ณ อาร์เจนตินาในฤดูหนาวปี 1996 ไหล่เยิ่วไฝ่ว์ (เหลียงเฉาเหว่ย) กับ ห่อโปวเหว่ง (เลสลี จาง) สองคู่รักชายชาวฮ่องกงตั้งเป้าหมาย ให้พวกเขาได้ไปเยือนน้ำตกอีกวาซูด้วยกันซักครั้ง แต่ในระหว่างทางที่พวกเขาร่วมเดิน ก็ต้องผจญทั้งความรัก ความใคร่ ความผิดหวังในความสัมพันธ์ดั่งการเล่นชักเย่อ ที่พวกเขาเฝ้าแต่ดึงดันและเหนี่ยวรั้งความรู้สึกของกันและกันแต่สายสัมพันธ์ของพวกเขาจะแข็งแรง และทนทานได้แค่ไหนในวันที่อาเจิน (จางเจิ้น) นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันเข้ามาในชีวิตของไหล่เยิ่วไฝ่ว์ ดูหนังออนไลน์
A Story About Reunion หนึ่งประโยคสุดกำกวมบนโปสเตอร์ของหนังที่ชวนให้เรามองภาพชายสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงบนดาดฟ้าและเรื่องย่อแสนสั้นที่ค่ายหนังใช้โฆษณาเคยกลายเป็นกำแพงกั้นระหว่างผมกับตัวหนังตอนออกฉายมาแล้ว แต่พอได้ดูจริง ๆ ในแต่ละครั้งการมองเรื่องราวและสัมผัสหัวใจของเรื่องราวต่างกันสิ้นเชิงเลยทีเดียว
โดยรอบแรกที่ดูจาก DVD สมองของผมได้แต่ติดตามเรื่องราวรักร้าวลึกของคู่รักชายในต่างแดนด้วยสายตาของคนดูทั่วไปที่ทั้งตกตะลึงในฉากเลิฟซีนต้นเรื่องอันดุเดือดและความคอนทราสต์ของภาพที่สื่อบันทึกดิจิทัลในช่วงปฐมวัยทำได้เพียงให้สีเขียว ๆ ฟ้า ๆ และภาพที่มีแต่เกรนขึ้นเต็มไปหมด จนมองเรื่องราวที่คลุมเครืออยู่แล้วได้ยากเกินจะเห็นรายละเอียดที่ผู้กำกับตั้งใจถ่ายทอด
แต่จากการชมภาพยนตร์ฉบับบูรณะใหม่ รอบนี้ในโรงภาพยนตร์อาจพูดได้ว่านี่คือฉบับที่ควรชมที่สุดแล้วจริง ๆ และที่ไม่ผิดหวังเลยคือการที่ไฟล์มาสเตอร์ของหนังเป็น 4K และผ่านการปรับปรุงความคมชัดและคอนทราสต์ภาพ ให้ได้อย่างที่ผู้กำกับต้องการทำให้เราติดตาม และรับสารรวมถึงอารมณ์ของหนังได้ชัดเจน และเปี่ยมอารมณ์มากขึ้นหลายฉากหลายตอนต้องยอมรับเลยว่าเมื่อถูกฉาย ฉบับที่ภาพและเสียงสมบูรณ์แบบขนาดนี้มันพาอารมณ์เรา ดำดิ่งและกระเจิง ไปกับชะตากรรมของพวกเขาได้อย่างง่ายดายรวมถึงรายละเอียดเนื้อเรื่องที่พลาดไปครั้งแรกที่ได้ชมโดยเฉพาะการกำหนดโทนสีของหนังในช่วงที่ ไหลเยิ่วไฝ่ว์ กับ ห่อโปวเหว่ง คบกันหนังเลือกจะเอาโทนสีอุ่น ออกจากงานภาพเหลือไว้เพียงโทนสีแบบ “หนาวนีออน”
พบว่าไม่ได้รู้สึกเศร้าและหดหู่ใจมาก เท่ากับครั้งแรกๆ ที่ได้ดูเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตรงกันข้าม เมื่อดูถึงตอนจบของ Happy Together ในครั้งนี้ เรากลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีๆ ของการก้าวเดินต่อไป โดยทิ้งความทุกข์ความเศร้าจากความสัมพันธ์พังๆ ไว้เป็นความทรงจำ แถมระหว่างทางเรายังพบรายละเอียดเล็กๆ ในความสัมพันธ์ระหว่าง “ไหลเยี่ยฟา” และ “โหเป่าหวัง” ที่ทำให้เราหัวเราะ และรู้สึกอบอุ่นใจกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ดูหนังฟรี
Happy Together เล่าถึงความสัมพันธ์รักๆ เลิกๆ ของคู่รักเกย์ที่เดินทางออกจากฮ่องกงมาอาร์เจนติน่า พร้อมกับความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่า และจะได้เดินทางไปดูน้ำตกอีกวาซูด้วยกัน ทว่าชีวิตมันไม่ง่ายดายแบบนั้น และความสัมพันธ์ของคนสองคน มันก็ไม่ง่ายด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายหนึ่งคือ โหเป่าหวัง เกย์หนุ่มผู้เอาแต่ใจ ร้ายกาจ แต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ อย่างคนที่รู้ดีว่าจะเอาชนะใจอีกฝ่ายได้อย่างไร
ช่วยไม่ได้ที่เราจะย้อนคิดถึงความรักความสัมพันธ์ ของตัวเอง ทั้งในช่วงวัยที่เรายังทำตัวแบบเดียวกับโหเป่าหวัง ความรู้สึกดีและโคตรจะอุ่นใจที่ได้รู้ว่าถึงอย่างไร ก็ยังมีไหล่ของอีกคนให้พักพิงได้เสมอนี่มันช่างวิเศษจริงๆ นะ เช่นเดียวกัน ในอีกความสัมพันธ์ต่อมา ที่เรากลายเป็นไหลเยี่ยฟาที่ต้องคอยโอบกอด ดูแลและให้อภัยอีกฝ่ายเสมอ มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลย ขอแค่เรายังมีเค้าอยู่ข้างๆ ต่อไปก็พอ แต่ที่สุดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเราถึงที่สุดแล้ว ก็เป็นเค้าเองนั่นแหละที่เดินจากไป
ลายเซ็นของหว่องกาไวยังชัดเจน นอกจากงานด้านภาพ การตัดต่อ การเล่าเรื่องแบบที่เราต้องปะติดปะต่อ และอ่านตัวละครจากสิ่งที่เห็นด้วยตัวเองแล้ว ยังมีรายละเอียดของความเหงาแต่เท่ ที่ถึงแม้เหมือนหว่องกาไว จะพูดเรื่องเดิมๆ และโอเวอร์เกินจริงแค่ไหน แต่มันก็ส่งผลรุนแรงต่อคนที่ผ่านประสบการณ์มาได้เสมอ อย่างรอบนี้ก็คือการเอาอัดเสียงความเศร้าไปทิ้งที่สุดขอบโลกนั่นไงเล่า
Happy Together เป็นหนังที่มีความทรงจำอะไรมากมาย ของตัวเราทาบทับอยู่กับตัวหนัง ช่วงวัยแห่งความสับสนและการเรียนรู้เรื่องความรักความสัมพันธ์ ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายที่เราไม่รู้จะไปเรียนรู้จากพื้นที่ตรงไหน ไปจนถึงการได้เห็นนักแสดงที่เราชื่นชมมาตั้งแต่เด็ก รับบทเป็นเกย์มันเป็นเรื่องที่มีคุณค่าต่อจิตใจเรามากนะ “เหลียงเฉาเหว่ย” ในบทไหลเยี่ยฟา โคตรจะเป็นผู้ชายในฝันเลย แล้วเราก็เสียน้ำตาให้กับเค้าอีกครั้ง กับฉากอัดเสียงใส่เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตนั่น “เลสลี่จาง” ในบทโหเป่าหวัง ก็ร้ายแสนร้าย แต่ก็เปราะบางแตกสลายง่ายดายเหลือเกิน
เพราะความรักของทั้งคู่ คึอการทำร้ายความรู้สึกของกันและกัน และนั่นทำให้การ reunion หรือกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง คือการกลับมาเพื่อตักตวงความอบอุ่นจากมรสุมชีวิต อันหนาวเหน็บอีกครั้ง ซึ่งการที่หนังออกฉายปี 1997 มันย่อมฉายภาพเปรียบเปรยไป ถึงการที่ฮ่องกงกลับไปรวมกับจีนอีกครั้งด้วยที่เวลา 99 ปีที่เหินห่างคงพูดไม่ได้เต็มปากว่าการรวมชาติครั้งนี้ คือ “ความรัก” ไม่ต่างจากคู่ของไหลเยิ่วไฝ่ว์กับห่อโปวเหว่งหรอกจริงไหม ? เว็ปดูหนังฟรี
ส่วนโทนอบอุ่นจะมาให้เห็นพร้อมการมาถึงของอาเจินหนุ่ม ไต้หวันที่มาทำงานครัวกับไหลเยิ่วไฝ่ว์ ก็ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งฤดูที่เปลี่ยนจากฤดูหนาว มาเป็นฤดูร้อนพร้อมภาพที่เน้นแสงพระอาทิตย์จนถึงขั้นปล่อยให้แสงกระทบเลนส์กล้องเกิดแฟลร์ เพื่อแสดงถึงความอบอุ่นจากแดดแรกของฤดูร้อน และการเริ่มใหม่ของหัวใจเหงา ๆ ของเขา
และแน่นอนการที่ฉากจบหนังจะไปสรุปเหตุการณ์ ที่ตลาดกลางคืนที่ไต้หวัน (ซึ่งก็มาพร้อมสีสันจากไฟประดับร้าน) พร้อมประโยคที่ว่า “ผมไม่แปลกใจว่าทำไมคนอย่างอาเจินถึงระหกระเหินไปได้ไกลแสนไกลเพราะสุดท้ายก็มีบ้านให้เขากลับมาได้อย่างอุ่นใจเสมอ” ย่อมไม่ใช่แค่การพูดถึงความสัมพันธ์ของไหลเยิ่วไฝ่ว์เท่านั้นแต่มันอาจพูดถึงไต้หวันในฐานะยูโทเปียของชาวจีนเสรีนิยมก็เป็นได้
ท้ายสุดคงต้องบอกว่านอกจากองค์ประกอบทางศิลปะภาพยนตร์ ที่หว่องกาไวบรรจงถักทอห้วงคำนึงแห่ง “ในนิยามความเหงาคนเราล้วนไม่ต่างกัน” แล้ว การได้กลับมาดูการแสดงชวนใจสลายของเหลียงเฉาเหว่ย ที่ทุ่มหัวใจทั้งบทเลิฟซีนและดรามาสุดลึกแล้ว การได้เห็น เลสลี จาง สุดยอดนักแสดงชาวฮ่องกงผู้จากไป บนจออีกครั้งยังคงทำให้เราต้องเอ่ยคำว่า “น่าเสียดาย” ได้ก้องหัวใจไม่ต่างจากตอนรับรู้เรื่องราวการเสียชีวิตของเขาครั้งแรกเลยทีเดียวเชียวแหละ
สรุปว่าหนังวายเรื่องนี้คสรค่าแก่การดูหรือไม่
เรียกได้ว่าเป้นอีกหนึ่งหนังวายน้ำดีมากๆ ของไต้หวันที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราว ความรักต่างๆของชาว LGBTQ ได้อย่าลงตัวเป้นอย่างมาก
เลยต้องบอกตรงนี้เลยว่า ห้ามพลาดเป้นอันขาดนะครับคุณผู้ชม สามารถติดตามการรีวิวหนังวาย สนุกๆ มากมาย หลากหลายอารมณ์ กันได้ที่นี่ รีวิวหนังวาย