รีวิว Brokeback Mountain

 รู้จักหนังเรื่องนี้ครั้งแรกก็เพราะพี่สาวคนนึงแนะนำ บอกว่าเป็นหนังที่ดี บ่อน้ำตาแตก เราเองก็สนใจมากๆ เพราะเป็นหนัง Homosexual ที่คลาสสิกและโด่งดังมากๆเรื่องนี้ คนพูดถึงเต็มไปหมดเลย เพิ่งจะมีโอกาสได้ดูจริงๆ ตอนเพื่อนๆชวน Movie night ตอนห้าทุ่ม…ค้นพบว่าไม่ควรดูตอนก่อนนอนเลยจริงๆ ต่อไปจะเป็น รีวิวกึ่งระบายความรู้สึกกึ่งวิเคราะห์ อัดอั้นอะ ไม่เขียนไม่ได้นะจ๊ะทุกๆคน

 

รีวิว Brokeback Mountain01

 

ภาพยนตร์เรื่อง Brokeback Mountain หุบเขาเร้นรัก เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก ดราม่า ผลงานการกำกับของ หลี่ อัน ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างชายหนุ่มสองคนในอเมริกาตะวันตก ยุคปี ค.ศ. 1963 – 1983 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นฮีท เลดเจอร์ และ เจค จิลเลนฮอล ที่มารับบทเป็น เอนนิส เดล มาร์ และแจ็ก ทวิสต์ คาวบอยหนุ่มสองคนที่พานพบและตกหลุมรักกัน คนต่อมาคือมิเชลล์ วิลเลียมส์ มารับบทเป็น อัลมา เบียส์

คนต่อมาคือและคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือแอนน์ แฮทาเวย์ มารับบทเป็น ลูรีน นิวซัม ภาพยนตร์ Brokeback Mountain หุบเขาเร้นรัก เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2548

หากพูดถึงภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวความหลากหลายทางเพศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชื่อแรก ๆ ที่นึกขึ้นได้คงเป็น Call Me By Your Name (2017)  Love, Simon (2018) Moonlight (2016) หรือ The Half of It (2020)  ดูหนังฟรี

รีวิว Brokeback Mountain

Jack และ Ennis คาวบอยหนุ่มทั้งสองได้มาทำงานร่วมกัน โดยรับหน้าที่ต้อนแกะ เฝ้าฝูงแกะให้กับเจ้าของไร่บน Brokeback mountain ช่วงเวลาที่อยู่บนนั้นทำให้ทั้งสองใกล้ชิดและตกหลุมรักกัน แต่บรรทัดฐานสังคม ฐานะ ภาระหน้าที่ในชีวิต ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ทว่า Jack และ Ennis ก็ยังคงนัดเจอกันนานๆทีหนตลอด20 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าต่างฝ่ายจะแต่งงานมีลูกมีครอบครัวไปแล้วก็ตาม

 

รีวิว Brokeback Mountain02

 

นิสัยของตัวละครเป็นอะไรที่เข้าใจได้และสมจริงมาก ไม่มีตัวละครที่ดีเกินไป หรือเลวเกินไป ตัวละครล้วนเห็นแก่ตัว มีทั้งแง่มุมที่แข็งแกร่งและเปราะบาง หนังเรื่องนี้เล่นกับจิตใจคนดูได้ดี (อย่างน้อยก็สำหรับเรา) เพราะสุดท้ายเราเข้าใจทุกๆฝ่าย ไม่ได้เห็นใจแต่เพียงตัวเอก หนำซ้ำ มองจากหลายๆมุม ตัวเอกก็ทำผิดกับคนอื่นไว้มาก แต่เรากลับผูกพันและหวังลึกๆให้ทั้งสองได้รักกัน แม้ว่ามันจะเป็นทางเลือกที่เห็นแก่ตัวแค่ไหนก็ตาม ดูหนังออนไลน์

Jack เป็นคนโรแมนติกช่างคิด ช่างฝัน และวางแผนให้ตัวเองและ Ennis ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกัน แต่ Ennis ไม่ใช่ เขาอยู่กับความเป็นจริง ถูกปลูกฝังว่ารักเพศเดียวกันนั้นผิดและต้องเจอจุดจบที่เลวร้าย เขาถึงหลบซ่อนอย่างขี้ขลาด แต่มองอีกมุมหนึ่งเขาก็ทุ่มเทให้กับครอบครัวมากกว่า Jack ที่โชคดีได้แต่งงานกับหญิงสาวตระกูลร่ำรวย ไม่ใช่แค่ทรยศกับภรรยา แต่ Jack ยังทรยศกับ Ennis ด้วย (ทั้งซื้อบริการ ทั้งชายหนุ่มที่เทกซัส ทั้งผู้หญิงอื่น ฯลฯ) Jack ไม่มีความอดทน และแทบไม่เห็นแง่มุมรักครอบครัวของ Jack ต่างจาก Ennis ที่ถึงแม้จะไม่ซื่อสัตย์กับภรรยา แต่ทุกอย่างบีบบังคับให้เขาทำงานบากบั่น และหลายครั้งก็ต้องปฏิเสธกระทั่งการได้ใช้เวลากับ Jack เพื่อหาเลี้ยงตนเองและครอบครัว

 

รีวิว Brokeback Mountain03

 

ด้วยปมนิสัยของตัวละครที่สมจริง มีหลายมิติ จนบางครั้งอยากจะสบถว่าไม่เข้าใจ บางครั้งสงสาร บางครั้งรู้สึกสมน้ำหน้า หลายๆอย่างปนกัน เราชอบที่ตัวละครเรื่องนี้โคตรจะเป็นสีเทา ให้ภาพผู้ชายสองคนรักกันจริงๆ ผู้ชายแมนๆ เล่นกันแรงๆ ทะเลาะทีต่อยกัน ดูเป็นอะไรที่จับต้องได้ เหมือนหยิบเรื่องจริงมาเล่า และถ้า Jack กับ Ennis ไม่ได้นิสัยแบบนี้ เรื่องราวก็คงไม่ได้ดำเนินไปแบบนี้ การวางคาแรกเตอร์ต่างๆจึงซัพพอร์ตแก่นเรื่องได้ดี  ยิ่งพัฒนาการตัวละครช่วงหลังๆบีบหัวใจเราเหลือเกิน;_; ครั้งสุดท้ายที่เจอกันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายขาด ทั้ง Jack และ Ennis เก็บกดอะไรหลายๆอย่างมาตลอด20 ปี จนสุดท้ายก็ระเบิดตู้ม ทั้งที่หนังมีบทพูดไม่เยอะ แต่ก็ทำให้เราร้องไห้ จังหวะไต่อารมณ์ จังหวะไคลแมกซ์ ทุกอย่างลงตัวและเป็นธรรมชาติ พอมารวมเข้ากับการแสดงที่สมบูรณ์แบบ ก็ทำให้น้ำตาซึมได้โดยไม่ต้องพึ่งคำพูดใดๆ รีวิวหนังวาย

 

 

ภาพยนตร์เรื่อง Brokeback Mountain หุบเขาเร้นรัก เปิดเรื่องราวมาที่ในฤดูร้อนปี 1963 แจ็ค ทวิสต์ และเอนนิส เดลมาร์ สองหนุ่มได้รับการว่าจ้างให้มาเป็นคนงานในฟาร์มเลี้ยงแกะใกล้เทือกเขาโบร๊กแบ็กในไวโอมิง ในตอนแรกที่เจอกันทั้งคู่ไม่ไว้ใจกันเท่าไหร่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองกลับกลายเป็นเพื่อนกัน และในเวลาต่อมาความรู้สึกที่มีต่อกันก็ค่อยๆพัฒนากลายเป็นความรัก จนเมื่อฤดูร้อนหมดไป ทั้งคู่ก็กลับลงมาจากโบร๊กแบ็ก และแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเอง

โดย เอนนิส ยังคงอาศัยอยู่ที่ไวโอมิง และได้แต่งงานกับ อัลมา แฟนสาวที่คบกันมานาน และในเวลาต่อมาก็มีลูกด้วยกัน 2 คน ส่วนแจ็คแต่งงานกับลูรีน สาวสวยประจำเมือง มีลูกกับเธอคนหนึ่ง และรับผิดชอบดูแลธุรกิจให้กับพ่อตาในเท็กซัส ในระหว่างนั้นแจ็คกับเอนนิสตัดสินใจที่จะไม่พบกัน และพยายามลืมเรื่องเกิดขึ้นที่โบร๊กแบ็กไป จนกระทั่ง 4 ปีผ่านไป แจ็คก็ส่งจดหมายถึงเอนนิสเพื่อบอกให้รู้ว่าเขากำลังจะเดินทางผ่านมาแถวนั้น และจะแวะมาเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า โดยการพบกันครั้งนี้ทำให้ทั้งแจ็คและเอนนิสรู้ว่าแท้ที่จริงพวกเขายังมีความรู้สึกดีๆให้กันอยู่ แล้วทั้งคู่จะทำยังไงกับความรู้สึกทั้งหมด ต้องติดตามชมทาง Netflix กับภาพยนตร์เรื่อง Brokeback Mountain หุบเขาเร้นรัก

 

 

นอกจากข้อจำกัดในเรื่องกฎหมายแล้ว สิ่งที่สร้างบาดแผลและความสัมพันธ์อันซับซ้อนให้กับสองตัวละคร คือลักษณะนิสัยที่ค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะเอ็นนิสค่อนข้างระมัดระวัง และพยายามทำตามกรอบของสังคม แต่แจ็คกลับชวนเอ็นนิสก้าวออกจากกรอบไปใช้ชีวิตอิสระอย่างที่ใจต้องการ

หากย้อนกลับไปยังวัยเยาว์ สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่คิดและตัดสินใจต่างกันสุดขั้ว อาจเป็นเพราะเอ็นนิสสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก หากความทรงจำที่เหลืออยู่กลับมีเพียงภาพของบิดาจูงมือไปดูร่างไร้ลมหายใจของชายผู้เป็นรักร่วมเพศ ซึ่งชายคนนั้นถูกทำร้ายอย่างสาหัสพร้อมตัดอวัยวะเพศ ภาพนั้นจึงยังติดตาและตามหลอกหลอนเอ็นนิสไปทุกหนทุกแห่ง อย่างตอนหนึ่งที่เอ็นนิสพูดว่า

“นายเคยรู้สึกแบบ…ไม่รู้สิ เวลานายเข้าเมือง แล้วมีคนจ้องนาย แววตาดูสงสัยเหมือนเขารู้ เวลาเดินตามถนนแล้วทุกคนมอง เหมือนพวกเขาก็รู้ด้วยน่ะ”

แม้แต่ตอนที่รู้ข่าวการเสียชีวิตของแจ็ค เอ็นนิสก็ยังไม่อยากเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่ย้อนไปในวัยเด็กของแจ็ค เขากลับมีพ่อแม่ที่ยอมรับและรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ รวมทั้งการเฝ้าฝันว่าจะได้มาตั้งต้นชีวิตใหม่กับเอ็นนิส เห็นได้จากตอนท้าย ๆ ที่พ่อแม่ของแจ็คต้อนรับเอ็นนิสอย่างเป็นมิตรและเล่าเรื่องราวที่ลูกเคยบอกไว้ว่า

“เอ็นนิส เดล มาร์ มันว่า สักวันผมจะพาเขามาที่นี่ เราจะปรับปรุงที่นี่ให้เป็นรูปเป็นร่าง มันฝันเฟื่องไม่สร่าง ว่าพวกแกสองคนจะย้ายมาที่นี่…”

สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แจ็คและเอ็นนิสเลือกวิธีการแก้ปัญหาต่างกัน และไม่ลงรอยกันหลายคราว ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนสายเกินกว่าจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตร่วมกันอีก

เมื่อทั้งคู่เลือกการซ่อนความรู้สึกไว้แล้วเดินหน้าต่อไปตามขนบของสังคมด้วยการแต่งงานมีลูกกับหญิงสาวที่ตนเองไม่ได้รัก นั่นทำให้รอยร้าวค่อย ๆ ลามไปยังความสัมพันธ์ในสถาบันครอบครัวของพวกเขา ทั้งความสัมพันธ์อันแสนเฉยชาของแจ็คและภรรยา เด็ก ๆ ที่ต้องเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน และการหย่าร้างของเอ็นนิส ซึ่งทำให้เขาต้องรับภาระค่าเลี้ยงดูบุตรและตกที่นั่งลำบากมาอาศัยอยู่ในรถบ้าน ดูหนังออนไลน์

 

 

แม้ว่าสังคมจะตีกรอบให้ความรักของแจ็คและเอ็นนิสเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ท้ายที่สุดเอ็นนิสก็ค้นพบว่า วิธีแก้ปัญหาของเขาด้วยการแต่งงานกับหญิงสาวที่ไม่ได้รัก และการมีลูกนั้นสร้างความปวดร้าวมากเพียงไหน โดยเฉพาะฉากบีบหัวใจที่เขาพบเสื้อของตัวเองกับแจ็คในวันสุดท้ายบนเขา Brokeback แขวนซ้อนกันอยู่ในตู้ของแจ็คผู้ล่วงลับ ราวกับเป็นตัวแทนของความรักที่ถูกซ่อนไว้ในตู้อย่างเงียบเชียบ หรือฉากแสนตราตรึงใจอย่างตอนที่ลูกสาววัย 19 ปีมาแจ้งข่าวเอ็นนิสว่าจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ แต่เอ็นนิสนิ่งไปพักหนึ่งคล้ายกำลังทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ก่อนจะถามด้วยสีหน้ากังวลว่า

“He loves you ?”

“เขารักลูกแน่ใช่ไหม ?”

เพราะเอ็นนิสได้รู้แล้วว่า รสชาติของความไม่รักนั้นทรมานเพียงใด เขาไม่อยากให้ลูกต้องเผชิญกับวังวนของการหย่าร้าง และความสัมพันธ์ในครอบครัวที่แตกสลายแบบที่เคยเป็นมา

แม้ปัจจุบันการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันจะได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องตามกฎหมายในรัฐไวโอมิง และอีกหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงคลาสสิกและกินใจผู้คนมานับสิบปี อาจเป็นเพราะ Brokeback Mountain ไม่ได้สะท้อนเพียงบาดแผลของ LGBTQ+  เท่านั้น แต่ยังสามารถสะท้อนถึงบาดแผลจากรักต้องห้ามรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา หรือชนชั้น นอกจากนี้ Brokeback Mountain ยังทิ้งคำถามหนึ่งไว้ในใจผู้เขียนด้วยว่า กฎเกณฑ์หรือบรรทัดฐานทางสังคม เป็นสิ่งที่ต้อง ‘ทำตาม’ เท่านั้น หรือเป็นสิ่งที่สามารถตั้งคำถามและปรับเปลี่ยนได้ เมื่อส่งผลร้ายมากกว่าผลดีต่อผู้คนในสังคม ดูหนังฟรี

 

 

สรุปหนังวายเรื่องนี้ควรค่าแก่การดูหรือไม่

ดูจบแล้วช็อกไปเลยอะ คือนั่งนิ่ง พยายามคิดว่าเมื่อกี้ดูอะไรไป หนังจะสื่ออะไร… เราชอบหนังที่ต้องใช้การตีความเข้าช่วยจึงจะได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ เรื่องนี้จึงตอบโจทย์มากๆ ทุกองค์ประกอบรวมกันจึงได้หนังที่เงียบแต่มีพลังอย่างเหลือเชื่อ ดูจบเราเก็บเอาไปฝัน วันนี้ตื่นมาก็หม่นไปทั้งวัน เขียนรีวิวแบบน้ำตารื้น ระหว่างดูไม่ได้ร้องไห้เยอะหรอก แต่หลังดูอารมณ์กลับติดค้าง T_T หน่วงเว่อ ถ้าให้อธิบายหนังด้วยคำๆเดียว จะขอใช้คำว่า เรียล ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เหมือนหนัง เหมือนเรื่องจริง เหมือนเราไปนั่งดูชีวิตของคนสองคนจริงๆเลย แล้วก็อาจจะมีจริงด้วยในยุคนั้น เพราะแบบนี้ถึงได้เจ็บปวด

 

 

สรุปแล้วถูกจริตอย่างประหลาด ให้ 8.7/10 แนะนำนะคะ <3 เผื่อใครดูจบ อารมณ์ค้าง ก็แวะมาดิสคัสกันต่อได้ ก็ถือว่าหนังเรื่อฃนี้ก็เป็นหนังวายน้ำดีอีกเรื่องหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดกันเลยทีเดียวเชียวแหละ ติดตามการรีวิวหนังวายสนุกๆกันได้ที่นี่ รีวิวหนังวาย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *