รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

  • โปรดิวเซอร์: ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร
  • กำกับการแสดง : บอส-นฤเบศ กูโน
  • แนวละคร: Romantic Coming of Age
  • ผลิต : นาดาว บางกอก ร่วมกับ LINE TV
  • สามารถรับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

อีกเรื่องหนึ่งของซีรี่ย์วายที่น่าจับตามองในขณะนี้ และ ต้องยอมรับว่าซีรีย์ เรื่องนี้ ของค่ายนาดาว บางกอกที่กำลังฉายอยู่ทาง LINE TV ในขณะนี้ ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของใครหลายๆ คน นอกเหนือจากเสน่ห์ล้นจอของนักแสดงแล้ว เรื่องราวรสเข้มเกี่ยวกับความสัมพันธ์และการเติบโตของเพื่อนสองคนก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับเสียงชื่นชมมากมายตั้งแต่ออกฉาย และหนึ่งในผู้ชมนั้นรวมถึงเราเองด้วยที่นั่งสำรวจเรื่องราวชีวิตของ เต๋ และโอ้เอ๋วผ่านสายตาของเกย์คนหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะต้องหยิบขึ้นมาส่งต่อให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้ชมสิ่งนี้ด้วยกัน

เล่าอย่างสั้นที่สุด แปลรักฉันด้วยใจเธอ คือ ‘เรื่องราวชวนปวดใจของเด็กวัยเตรียมมหาวิทยาลัยที่กำลังสับสนวุ่นวายใจในเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเพศเดียวกัน ท่ามกลางอากาศร้อนเร่าของฤดูร้อนจังหวัดภูเก็ต’ และถ้าหากจะจัด หมวดหมู่ ให้กับซีรีย์ นี้ก็คงเป็นเรื่อง โรแมนติกดราม่า ที่เล่าเรื่องของความหลากหลายทางเพศอย่างตรงไปตรงมาที่สุด ท่ามกลางอุตสาหกรรมบันเทิงที่กำลังโฟกัสไปที่ซีรีย์วาย ซีรีส์ บอยเลิฟ ที่มีแฟนๆ ติดตามจำนวนมาก แต่นี่คือรสชาติที่แตกต่างไป ทั้งโทนการเล่าและมิติของเรื่องราว ดูหนังฟรี

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

ความคาดหวังของเธอมันหนักบ่าฉัน

ช่วงวัยที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเล่าของตัวละครหลักทั้งเต๋และโอ้เอ๋ว คือช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญกับชีวิต คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่ทุกคนอาจเคยมีประสบการณ์ร่วมทั้งยุคเอ็นทรานซ์ O-NET A-NET GAT-PAT หรือแม้แต่ TCAS เราต้องนับมันเป็นช่วงวัยที่สำคัญที่จะขีดเส้นชีวิตทั้งชีวิตของเยาวชนประเทศนี้ และแน่นอนว่ามันเป็นหัวเชื้อสำคัญในการดำเนินเรื่องที่ดี ที่ทำให้เห็นจุดหมายของตัวละคร ปัญหากับสิ่งรอบข้าง ความเครียด หรือแม้แต่เรื่องความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปก็ตาม ซึ่งการหยิบเอาเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของตัวละครมาเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ทำให้เราได้เห็นการแตกประเด็นต่างๆ ทำให้เห็นกรอบในสังคมที่ยังไม่เปิดกว้างมากนัก ทั้งเรื่องการศึกษาและเรื่องเพศที่เราจะเล่าภายหลัง

ตัวละครหลักและเพื่อนๆ เองก็กำลังอยู่ในช่วงเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย นอกเหนือจากความเข้มข้นของการเรียนแล้ว สิ่งที่สำคัญมากๆ คือการค้นหาตัวตนของตัวละครเองว่าพวกเขาชอบสิ่งไหน  และอยากเรียนอะไร ซึ่งเป้าหมายของตัวละครคือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

แต่พวกเขาไม่ได้แค่แบกอนาคตของตัวเองไว้บนบ่า เพราะยังต้องแบกความคาดหวังจากคนรอบข้าง ความภาคภูมิใจของครอบครัว หรือความสำเร็จบางอย่างที่สังคมกำหนดไว้ เช่น ฉากที่แม่ของเต๋พาเพื่อนจำนวนมากมาร่วมฉลองในวันที่ลูกชายมีที่เรียนแล้ว เรียกเต๋ว่านักศึกษาและชื่นชมลูกชายใหญ่โต ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่ทำให้เราเห็นถึงภาระอันหนักอึ้งของช่วงวัยที่เราต่างเคยผ่านมา เหมือนเราต่างได้เห็นสิ่งที่ตัวเองต้องฝ่าฟันมาอีกครั้งผ่านซีรีส์เรื่องนี้ และเราก็เชื่อว่าคนในช่วงวัยนี้ในปัจจุบันเองก็ยังคงต้องแบกรับภาระทางความรู้สึกนี้ไว้เช่นกัน ด้วยความกลัว กลัวว่าตนจะไม่ประสบความสำเร็จ หรือมีเส้นทางชีวิตที่ไม่ประสบความสำเร็จ ถูกปั้นรวมเป็นมวลความกดดันที่น่าปวดใจในช่วงวัยหนึ่ง จึงไม่แปลกหากเรื่องราวนี้จะ Relate กับผู้ชมได้ไม่ยากเลย รีวิวหนังวาย

เพศ เรื่องที่คุยกันได้ไม่รู้จบ

ในเอพิโสดลำดับที่ 4 ล่าสุดนั้น นับเป็นช่วงเวลาของเรื่องราวที่ค่อนข้างเข้มข้นและหนักหนาพอสมควร เมื่อตัวละครต่างเข้าหากันและสำรวจความรู้สึกกันอย่างเปิดเผยเสียที หลังจากลุ้นกันมาหลายสัปดาห์แล้ว และในฐานะผู้ชมเราก็ค้นพบว่ามันสวยงาม และบุบสลายอยู่ในที เมื่อตัวละครหลักทั้งเต๋และโอ้เอ๋วได้ก้าวข้ามเส้นของความสัมพันธ์ไปแล้ว พวกเขาบรรจงจูบกันใต้แผ่นน้ำที่กว้างใหญ่ เป็นสัญญาณของความรู้สึกบางอย่างที่พุ่งทะลักออกมาจากหัวใจ แต่ทุกอย่างกลับริบหรี่ลงเมื่อฝ่ายเต๋กลับบอกกับโอ้เอ๋วว่าสถานะของพวกเขาเป็นเพียงแค่เพื่อน แต่การกระทำมันไม่ใช่ – เพื่อนกันเขาไม่ทำแบบนี้นะเต๋!

การถูกปฏิเสธจากเต๋ทำให้โอ้เอ๋วใจสลาย เราอาจเข้าใจได้ในจุดนี้ว่า เรื่องราวต่างๆ นานา เรื่องเพศก็เป็นอีกเรื่องที่คุยกันได้ไม่รู้จบจริงๆ ในวัยค้นหาตัวตนแบบนี้ เช่นเดียวกับที่เราเคยได้เห็น ภู จากซีรีย์ Hormones วัยว้าวุ่น หรือ ธัน จากซีรีย์ เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ ที่ต่างค้นหาและยอมรับตัวเองได้ เช่นเดียวกันกับ โอ้เอ๋ว ผู้ที่เข้าใจตัวเองดีตั้งแต่ต้นว่าเขาชอบผู้ชาย เขาเป็นเกย์ และชัดเจนในความรู้สึกดีทุกอย่าง กลับทำให้เราคิดถึงวัยเด็กของเราที่อาจจะเผลอใจไปชอบเพื่อนผู้ชายหลังห้องโดยที่เขาไม่ได้ชอบตอบ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

แต่กลับกัน ทางด้านเต๋ เขายังคงสับสน และไม่เข้าใจในความรู้สึกของตัวเอง เขาอาจจะเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังสานสัมพันธ์กับ ตาล เด็กหญิงที่ชอบพอกัน หรือเขาอาจจะเป็นเกย์ที่หลงรักเพื่อนตัวเองที่ชื่อ โอ้เอ๋ว ก็ได้ หรือเขาอาจจะเป็นไบเซ็กชวลที่ชอบพอได้ทั้งสองเพศ หรือเขาอาจจะยังไม่รู้อะไรเลยกับช่วงชีวิตที่ยังวุ่นวายใจในหลายๆ เรื่องและหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ในเมื่อสังคมยังคงให้คุณค่ากับเรื่องเพศ ที่คงสถานะ อยู่เท่านั้น มีแค่ชายกับหญิง แล้วเขาจะยืนตรงไหนหากเขารู้สึกไม่เหมือนคนอื่น? สังคมยังไม่ให้การยอมรับกับเรื่องเพศ ซึ่งประเทศไทยก็ทำกันอยุ่ในขณะนี้

เราชื่นชอบการเล่าเรื่องเพศในซีรีส์เรื่องนี้พอสมควร ค่อนข้างตรงไปตรงมา ไม่เขินอายที่จะเล่าและไม่ประนีประนอม โดยเฉพาะในหลายๆ ครั้งที่เต๋และโอ้เอ๋วมีปฏิสัมพันธ์กันแบบลึกซึ้ง ซีรีส์มักจะแสดงให้เห็นภาพ ‘การคลึงหน้าอก’ อย่างชัดเจนทุกครั้ง ซึ่งนั่นอาจเป็นสัญลักษณ์ที่กำลังชวนให้ผู้ชมเองคิดว่าเต๋มองสถานะทางเพศของโอ้เอ๋วไว้อย่างไร เว็ปดูหนังฟรี

ฉากที่นับว่าเป็นความพีกที่สูงที่สุดของเรื่อง หรืออาจจะเป็นซีนที่พีกที่สุดซีนหนึ่งในวงการบันเทิงบ้านเราก็ว่าได้ คือฉากที่โอ้เอ๋วเดินเข้ามาในห้องของตน เปิดตู้เสื้อผ้า และหยิบเอาบราสีแดงสดมาใส่ประคองอก ยืนบิดตัวชมความงามของเรือนร่าง และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมส่วนตัวของตัวเอง ก่อนจะรีบลบทันทีที่ใจฉุกคิดบางอย่างขึ้น และร้องไห้อย่างทรมานเจียนตาย แน่นอนว่ามันทำให้ผู้ชมเซอร์ไพรส์อย่างมากในความกล้าเล่านี้

การที่โอ้เอ๋วเลือกเดินไปเปิด ‘ตู้เสื้อผ้า’ แล้วหยิบบราสีแดงสดนี้ คงอุปมาอุปไมยได้ว่ามันคือการนำเสนอวลี ‘Out of the closet’ หรือการเปิดเผยตัวตนออกมา หรือการ Come Out นั่นเอง และการที่โอ้เอ๋วพยายามค้นหามุมมองที่งดงามที่สุดของตัวเองภายใต้บรานั้น อาจเป็นเพราะหลายๆ ความรู้สึกที่มันท่วมท้นออกมา เราไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งที่โอ้เอ๋วต้องการคืออะไร เขาอาจจะอยากเป็นผู้หญิงหรือเปล่า หรือแค่อยากได้การยอมรับจากคนในครอบครัว

และคำถามสำคัญที่สุดคงเป็นการอยากรู้ว่าสิ่งที่เต๋กำลังคิดกับเขาคืออะไร นั่นจึงกลายเป็นที่มาของน้ำตาเรือนลิตรที่โอ้เอ๋วพยายามอยากจะใส่บราเพื่อค้นหาคำตอบ

รีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

นั้นเช่นกันว่า หากการมีหน้าอกจะทำให้เขาได้รับความรู้สึกที่ดีจากเต๋กว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า จากพฤติกรรมและการแสดงออกที่เต๋ทำ และนั่นอาจเป็นความหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นในตัวเขาว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นผิดหรือถูก และเป็นการลบล้างความเป็นตัวของตัวเองออกไปหรือเปล่า? เพราะเขาเป็นเกย์ และเขาไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง

นี่คือการแสดงภาพกรอบสังคมที่กดทับความเป็นเพศอื่นๆ ไว้ ให้เห็นถึงโลกที่มีแค่ชายกับหญิง และไม่ได้มีพื้นที่ให้ความหลากหลายทางเพศ และถ้าหากต้องมีความรัก จำเป็นต้องเลือกใครสักคนที่เป็นเพศตรงข้ามเท่านั้นหรือเปล่า และเรื่องราวก็ทำให้เราได้เห็นประเด็นนี้ชัดเจนขึ้น เมื่อเต๋ได้เห็นภาพนั้นของโอ้เอ๋วและพยายามจะช่วยตัวเองทั้งน้ำตา นั่นคือความรู้สึกผิด สับสน ไม่เข้าใจ และหนักหนามากเกินไปสำหรับเด็กวัย 18 ที่ต้องแบกความรู้สึกเรื่องนี้ไว้

และถ้าหากเราได้สำรวจคนในวัยดังกล่าวหรือผู้เคยมีประสบการณ์ร่วม เราอาจเคยสงสัยกันเสมอว่า ทำไมเราต้องเป็นอย่างคนอื่น ทำไมครอบครัวต้องคาดหวังให้เราทำแบบนั้นหรือเป็นแบบนี้ หรือทำไมสังคมต้องคอยตั้งคำถามกับความ ‘ไม่เหมือนคนอื่น’ ของเพศเรา เหมือนกับเยาวชน LGBTQ จำนวนมากที่ยังคงต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ยังไม่เข้าใจพวกเราเท่าที่ควร อาจใช่ในแง่หนึ่ง ที่เราพูดว่าสังคมไทยเปิดรับและเข้าใจความหลากหลายทางเพศแล้ว แต่มันไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพราะเพศเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะในแง่กายภาพ บุคลิกภาพ หรือรสนิยมก็ตาม และมันไม่ตายตัว ซึ่งกรอบสังคมแบบดั้งเดิมยังคงกดทับความเป็นเพศอื่นๆ ไว้โดยไม่รู้ตัว และพวกเราควรมีที่หยัดยืนอย่างถูกต้องในสักวัน ไม่ว่าจะในแง่ความรู้ ความเข้าใจ การมีอยู่ ดูหนังออนไลน์ 

และสิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในซีรีส์เรื่องนี้คือพลังงานแง่บวกเล็กๆ ที่ชี้ชวนให้เราเข้าใจตัวเอง เข้าใจคนอื่น และพร้อมที่จะเติบโตไปอย่างเข้มแข็ง ให้เกียรติตัวเองและคนรอบข้าง ยอมรับในความแตกต่างและสิ่งที่เราเป็น และถ้าหากในซีรีส์เรื่องนี้หยิบยกเอาดอกชบาขึ้นมาเป็นตัวแทนของเพศที่หลากหลายในเรื่องนี้ เราเองก็คาดหวังว่าสังคมนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

เพื่อให้ไม่ต้องรับความกดดันและใช้ชีวิตอิสระมากขึ้น

สิ่งที่น่าชื่นชมนอกเหนือจากแก่นเรื่องที่ไม่ได้ยากเกินเข้าใจแล้ว มาตรฐานของงานถ่ายทำ โปรดักชัน หรือการแสดงเองก็ตามล้วนแต่ขับเคี่ยวออกมาได้อย่างครบรส โดยเฉพาะการแสดงของสองนักแสดงนำทั้ง บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ที่มีเคมีที่ดีต่อกัน ขับเสน่ห์ให้กันและกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่อีกส่วนที่ต้องชื่นชมมากๆ คือการปรากฏตัวของ สไมล์-ภาลฎา ฐิตะวชิระ ในบท ตาล ที่เธอทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เราอินตามกับตัวละครไม่มากก็น้อย

สรุปรีวิว แปลรักฉันด้วยใจเธอ

ท่ามกลางบรรยากาศสายลม และแสงแดดของเมืองภูเก็ต เพื่อนสมัยเด็กที่ห่างหายกันไปหลายปีอย่าง “เต๋” (บิวกิ้น) และ “โอ้เอ๋ว” (พีพี) โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งที่โรงเรียนกวดวิชาภาษาจีน เพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมุ่งมั่น จะสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพื่อนรักที่เคยร่วมฝัน จึงกลับกลายมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ
เมื่อยิ่งสำคัญ ก็ยิ่งอยู่ในสายตา การที่เต๋และโอ้เอ๋วได้กลับมาใกล้กันอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองได้รู้จักกันและกันมากขึ้น จนได้นำพาไปสู่ความรู้สึกใหม่ ที่ต่างก็ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ในวันที่พวกเขายังเด็ก สนามสอบที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตเด็ก ม.6 ครั้งนี้ จึงมีทั้งความฝันและความผูกพัน ที่ทำให้ต้องแข่งแย่งชิงกัน ส่วนตัวผมคิดว่าทำออกมาได้ดี จนอินไปกับตัวละครในเรื่อง

และสำหรับเพื่อนๆคนไหนที่สนใจการรีวิวหนังวาย สนุกๆมากมายหลากหลายอารมณ์ เพื่อนก็สามารถติดตามกันได้ที่ รีวิวหนังวาย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *