รีวิว หอแต๋วแตก พจมาน สว่างคาตา

ภาพยนตร์ตลกร้ายจากผู้กำกับเลื่องชื่อ พชร์ อานนท์ ผู้เป็นตำนานในการทำหนังคัลท์ของไทยที่ยากจะหาใครเลียนแบบ กับบทด้นสดที่โคตรตลกและยังเป็นไดอะล็อกติดหูคนทั่วบ้านทั่วเมืองมาจนวันนี้ ก่อนที่ภาคสปินออฟ ‘พจมาน สว่างคาตา’ จะฉาย เรามาดูภาคก่อนๆ ให้เข้าใจที่มาที่ไปกันก่อนมั้ย แต่จริงๆ ก็ไม่น่าจะมีใครเข้าใจ นี่ด่าหรอ “หนูด่าตุ๊กตา หูหาเรื่องนะเจ๊”

 

รีวิว หอแต๋วแตก พจมาน สว่างคาตา01

 

 

  • ประเภท : Comedy / Fantasy / น 15+
  • ผู้กำกับ : พชร์ อานนท์ (พจน์ อานนท์)
  • บทภาพยนตร์ : พชร์ อานนท์ (พจน์ อานนท์)
  • กำกับภาพ : อานนท์ จันทร์ประเสริฐ, ปัญญา นิ่มเจริญพงษ์
  • ลำดับภาพ : เหมือนฝัน อุปถัมภ์
  • ดนตรีประกอบ : ไจแอ็นท เวฟ
  • ควบคุมงานสร้าง : รุจิราพร หาญชัยนะ
  • อำนวยการสร้าง : ธนกร ปุลิเวคินทร์
  • บริษัทผู้สร้าง / จัดจำหน่าย : เอ็ม เทอร์ตี้ไนน์, Guru Film

นักแสดงนำ  จตุรงค์ พลบูรณ์ รับบท หม่อมแม่

เอกชัย ศรีวิชัย   รับบท หญิงใหญ่เบ่อเริ่มเทิม

ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์  รับบท หญิงเล็กกระจิดริด

โก๊ะตี๋ อารามบอย  รับบท พจมาน สว่างคาตา

เขมนิจ จามิกรณ์  รับบท พจมาน เหิรหาว

ชาลี ไตรรัตน์  รับบท ชายตุงกลาง

วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย  รับบท ชายน้อยหนึ่ง

ณธรรศ ตันเจริญ  รับบท อานนท์  รีวิวหนังวาย

 

 

รีวิว หอแต๋วแตก พจมาน สว่างคาตา02

 

รีวิว หอแต๋วแตก พจมาน สว่างคาตา

โดยเรื่องราวที่หากเล่าแบบเข้าใจได้ง่ายที่สุด มันก็คือ มุกล้อเลียน (Parody) หนังเรื่อง บ้านทรายทอง นั่นเอง เพียงแต่มีเรื่องการหักหลังซ้อนแผนเมื่อคุณหญิงแม่ (จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก) หญ ิงเบ้อเริ่มเทิ่ม (เอกชัย ศรีวิชัย) และหญิงกะจิ๊ดริด (อาจารย์ ยิ่งศักดิ์) รวมหัวกันฆ่าพจมาน สว่างคาตา (โก๊ะตี๋ อารามบอย) และเอา แพนเค้ก (แพนเค้ก เขมนิจ) สาวสก๊อยมาสวมรอยหวังให้แต่งงานกับชายกลาง (แน็ก ชาร์ลี ปอทเจส) เพื่อฮุบสมบัติบ้านดอกไม้ทอง แต่แล้ววิญญาณของพจมานตัวจริงก็ปรากฏตัวเพื่อทวงความยุติธรรมคืน

 

รีวิว หอแต๋วแตก พจมาน สว่างคาตา03

 

แม้การดำเนินเรื่องและสไตล์การกำกับของพี่พชร์ อานนท์ จะไม่ได้ทำให้ พจมานสว่างคาตา หักศอกสร้างเซอร์ไพรส์อะไรให้เราเท่าไหร่ แต่นี่คือหลักฐานชั้นดีว่าเมื่อหนังไม่ได้เดินเรื่องหรือพยายามพามันไปไกลจากความถนัดของผู้กำกับนัก เราเลยเห็นความแม่นยำในการเล่าเรื่อง และพัฒนาการ (หรืออาจจะไกลแค่ ลำสาลี ก็ตาม) ที่เห็นได้ชัดเลยคือคราวนี้พี่พชร์ “เลือก” ใช้เฉพาะมุกที่ “ใช่” และ “โดน” เท่านั้น ที่สำคัญการมี บ้านทรายทอง เป็นเหมือนพิมพ์เขียวในการยั่วล้อและเอามุกทันเหตุการณ์ตามถนัดมาใส่ก็ทำให้หนังลงตัวพอดี ดูหนังออนไลน์

เรื่องราวสุดวายป่วงและสยองพองเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พจมาน (โก๊ะตี๋ อารามบอย) สาวน้อยผู้เรียบร้อยน่ารัก เดินทางจากบ้านนอกเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเรียนหนังสือต่อตามความประสงค์ของบิดาที่สั่งไว้ก่อนเสียชีวิต โดยให้ไปอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์บ้านดอกไม้ทองกับครอบครัวของ หม่อมอัมราภาแพรวพรรณนารายณ์พรรณาโวหารสมานจิต (จาตุรงค์ โพธาราม) ซึ่งมีศักดิ์เป็นหม่อมป้า และแล้วเมื่อพจมานเดินย่างกรายเข้ามาอยู่ที่บ้านดอกไม้ทอง เธอก็ได้พบกับ หญิงใหญ่เบ่อเริ่มเทิม (เอกชัย ศรีวิชัย), หญิงเล็กกระจิดริด (ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์), ชายน้อยหนึ่ง (วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย) ที่มีร่างกายพิการ ขาเป๋ ปากเบี้ยว และเหล่าบรรดาคนรับใช้ที่คอยกลั่นแกล้งพจมานสารพัด โดย แม่ช่อมณี (พชร์ อานนท์) ดูหนังออนไลน์ 

หัวหน้าแม่บ้านซึ่งเป็นผู้กุมความลับสำคัญของบ้านดอกไม้ทอง เธอก้าวมาในบ้านอย่างที่ไม่คาดคิดว่าชีวิตของเธอนั้นกำลังตกอยู่ในในอันตราย! ทุกคนได้ร่วมกันวางแผนฆ่า พจมาน เพราะไม่อยากให้เธอมาแย่งมรดก แต่แผนการกลับล้มเหลวทุกคร้ัง จนกระทั่งจู่ ๆ พจมาน กลับลื่นตกบันไดลงไปตายเองต่อหน้าคนในบ้านเสียอย่างนั้น

สาวน้อย พจมาน เดินทางจากบ้านนอกเข้ามาเรียนหนังสือต่อในกรุงเทพฯ ตามคำสั่งเสียก่อนตายของบิดา ให้ไปอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์บ้านดอกไม้ทองกับครอบครัวของ หม่อมอัมราภาฯ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหม่อมป้า ที่นั่น พจมานก็ได้พบกับ หญิงเบ่อเริ่มเทิ่ม, หญิงจิดริด , ชายน้อยนึง และเหล่าคนรับใช้ที่คอยกลั่นแกล้งเธอ เพราะไม่อยากให้เธอมาแย่งมรดก แต่จู่ ๆ พจมานก็ลื่นตกบันไดตายเอง หม่อมอัมราภาเพิ่งนึกได้ว่าพินัยกรรมจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อคนในตระกูลอยู่ครบ และพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ ชายกลาง เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จึงจ้างสาวสวยคนหนึ่งมาสวมรอยเป็นพจมาน

แม้จะมีมุกแป้กมาประปรายแต่มันก็ยังอยู่ในปริมาณที่พอดีและทำให้ มุก ฮา ๆ ทำงานได้ต่อเนื่องไม่สะดุดต่างจากหนังยุคหลังที่พยายามหนีการเล่าเรื่องแบบ หอแต๋วแตก จนผิดทิศผิดทาง ใส่ลูกเล่นและมุกอัปเดตหนักมือจนความสนุกไปไม่ถึงที่หมาย นั่นก็เพราะมันมีโครงเรื่องหลักและสูตรสำเร็จของนิยาย ก. สุรางคนางค์ เป็นแกนหลักที่มันตั้งใจยั่วล้อ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมุกเจน นุ่น โบว์ หรือ Social Distancing มันก็ยังไม่ทำให้โครงเรื่องหลักเสียไปแต่อย่างใด

 

 

และองค์ประกอบสำคัญและเป็นแกนกลางในการคิดบทเลยก็คงหนีไม่พ้นนักแสดง โดยเฉพาะ 4 นักแสดงหลักจากหอแต๋วแตกที่ยังรับส่งมุกกันอย่างถูกคอและลื่นไหล แถมคราวนี้ผู้กำกับอย่าง พี่พชร์ อานนท์ เองก็ยังนึกสนุกมาเล่นเป็นตัวประกอบถึง 3 บทบาทและช่วยให้หนัง ฮาขึ้นจากแอ็กติงแข็ง ๆ ของพี่เขาได้อีกด้วย นับเป็นอีกก้าวที่ชาญฉลาดมากในการประกาศความเป็นเจ้าของหนังของตัวเองนอกจากเหมาตำแหน่งออกแบบงานสร้างควบกำกับและเขียนบท ชนิดที่ผู้กำกับดัง ๆ ระดับโลกยังไม่กล้าทำเลยนะ

โดยรวมๆเเล้วพจมาน​ สว่างคาตา​ ถือว่าดีกว่าหนังเรื่องก่อนๆของพจน์​ อานนท์​ แต่โดยรวมยังอยู่ในโซนเเย่อยู่ดี​ สำหรับคะเเนนเอาไปเลย​ 2​ เหมียว​ ดูก็ได้เเต่ไม่ดูจะดีกว่า​ ดูฟรีเสียดายเวลา​ ดูเสียเงินเสียดายตัง​ เเล้วเพื่อนๆมีความคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้เม้นมาเลยจ้าา ดูหนังฟรี
ส่วนตัวคิดว่าภาคแรกๆ 1,2,3  ก็หนุก และฮาท้องแข็งอยู่หรอก แต่หลังๆ คือมันไม่ไหวจริงๆ ไม่หนุก ไม่ฮา ถึงกับเลิกดูไปหลายภาค รวมถึงหนังเรื่องอื่นๆของเจ๊แกด้วย เพราะเคยหลงไปดู ไอ้4G ตามกระแส หลายร้อยล้าน ก็ไม่เห็นจะฮาเลย จนมาถึง “พจมาน สว่างคาตา” เห็นตัวอย่างตลกดี น่าดูมาก น่าสนุก เนื้อเรื่องน่าจะมีอะไรใหม่ๆ แพนเค้กเล่นด้วย นักแสดงเยอะดี เลยตั้งใจไปดู วันนี้หยุดด้วย เลยดูแต่เข้าวันแรกเลย ก็คิดว่าจะฮาจนท้องแข็ง แต่ไม่เลย ฮานิดเดียว หนังเจ๊แก คงหมดมุขแล้วจริงๆ คงไม่หลงไปดูอีกหลายๆภาคเหมือนเดิม
เรื่องบท ไม่ต้องพูดถึง เพราะหนังพจน์ อานนท์ ไม่มีบทอยู่แล้ว มีแต่เส้นเรื่อง ให้นักแสดงด้นสดกันเอง
เพราะฉะนั้น อย่าคาดหวังกับตรรกกะอะไรต่างๆในหนัง มันไม่มีอยู่แล้ว ไปดูเอาฮา (แต่ไม่รู้จะฮารึเปล่านะ!)
ส่วนที่ไม่ชอบ ข้อด้วยของหนัง อันนี้ไม่ขอพูดถึง
เพราะชอบแค่ผู้ชาย ที่เหลือคือไม่ค่อยชอบ เจ๊พจน์หลอกให้ไปเสียตังค์ให้หนัง ไม่ฮาอีกแล้ว ดีนะใช้แต้มดูฟรี ยังเสียดายแต้ม
ส่วนที่เกลียดสุดในหนัง คืออี3คน ที่เป็นคู่หมั้น ชายตุงกลาง ในตัวอย่างน่าจะตลก  แต่ในหนัง อี3ตัวนี้ออกมาทีไร คือจะบ้าตาย แทบจะอุดหูทุกฉากที่ออก โคตรรำคาญเสียง จะกรี๊ดอะไรนักหนา เสียงแหลมบาดหูสุด ไม่ต้องเอาอี3ตัวมาในหนังก็ได้นะ เกลียดเสียงสุด ดีนะลุงสิตางค์ ไม่ค่อยมีแรงกรี๊ด เว็ปดูหนังฟรี
(ก็ถือว่าโอเค พอใช้ได้ ดูเล่นๆคั่นเวลา เรื่อยๆ ไม่ต้องคิดไรมาก ส่วนเรื่องความฮา อย่าไปหวัง เพราะได้ยินเสียงหัวเราะ แทบจะนับครั้งได้ในโรง ไม่ค่อยหนุก แต่ก็ดีที่ ไม่ถึงกับน่าเบื่อ ดีที่ไม่หลับในโรง ดูแก้เซง ก็ไปดูได้ เพราะเราพูอย่างเป็นกลางนะ ไม่ได้อคติกับลุงพจน์ ถึงหนังแก คนจะด่าเยอะ แต่หนังแก ก็ยังดูได้กว่าหนังไทยหลายๆเรื่อง ถึงไม่ได้อะไร ก็ได้แค่ยิ้มมุมปาก ขำในลำคอ ก็ยังดี แต่หนังไทยหลายๆเรื่อง ยิ่งกว่านี้ ดูไม่ได้เลย แทบจะเดินออกจากโรง ก็มีมาแล้ว 55 )

สรุปว่าเรื่องนี้ควรค่าแก่การดุหรือไม่

สำหรับหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนังตลก อีกเรื่องหนึ่งที่น่าดูมากๆ เลยก็ว่าได้  ที่สื่อเรื่องราวของความรักที่ไม่จำกัดเพศ หรือแม้กระทั่งความรัก ความเข้าใจของคนในครอบครัวอีกด้วยแฝงด้วยความฮาตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นหนังที่ทำออกได้ดีมากๆ แบบไร้ที่ติกันเลยทีเดียวเชียวล่ะคุณ เพราะฉะนั้น ห้ามพลาดหนังน้ำดี เรื่องนี้เป็นเป็นอันขาดครับ

เพื่อนๆสามารถติดตามการรีวิวหนังวาย ซีรีย์วาย สนุกๆ กันได้ที่นี่ รีวิวหนังวาย

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *