รีวิว รักแห่งสยาม

 

รีวิว รักแห่งสยาม01

 

กำกับ – ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล

เขียนบท – ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล

อำนวยการสร้าง – สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ปรัชญา ปิ่นแก้ว
สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์

นักแสดงนำ – สินจัย เปล่งพานิช
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี
มาริโอ้ เมาเร่อ
วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล
จิรายุ ละอองมณี
นรินทร์โชติ วชิรธรนิยมกุล
อธิชา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์
กัญญา รัตนเพชร

กำกับภาพ – จิตติ เอื้อนรการกิจ

ตัดต่อ – ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล
ลี ชาตะเมธีกุล

ดนตรีประกอบ – ปวิณ สุวรรณชีพ
กิตติ เครือมณี

รีวิว รักแห่งสยาม

เวลาช่วงใกล้ ๆ สิ้นปีทีไร บรรยากาศคริสต์มาส ปีใหม่ กำลังจะมา ถ้าพูดถึงหนังซักเรื่องหากเป็นหนังฝรั่งผมก็มักจะนึกถึงเรื่อง
Love Actually แต่สำหรับหนังไทยแล้วบรรยากาศแบบนี้ทีไรผมนึกถึง “รักแห่งสยาม” ทุกทีเลย มันเหงา ๆ หนาว ๆ  เคล้าด้วยรักแบบบอกไม่ถูก รีวิวซีรีย์วาย

 

รีวิว รักแห่งสยาม02

และเมื่อวาน 22 พฤศจิกายนเป็นวันที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายวันแรก มาตอนก็ครบรอบ 8 ปีพอดี เลยอยากจะกลับไปทบทวนเรื่องราวและความทรงจำกับหนังในดวงใจเรื่องนี้ซะหน่อย

ก่อนอื่นเลย เพื่อให้เข้ากับเรื่องราวในกระทู้ต้องสร้างอารมณ์หวนรำลึกให้มันอินเข้าไปอีกด้วยเพลงเพราะ ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วหนังเรื่องนี้ก็มีเพลงเพราะเยอะซะด้วย แต่มีเพลงนึงที่เชื่อว่าอยู่ในความทรงจำของทุกคนแน่นอน บอกความเป็นหนังได้ดี และที่สำคัญตอนนั้นดังมากได้ยินทุกวันทุกคลื่น ต้องเพลงนี้จริง ๆ

รักแห่งสยาม

-นี่คือ love actually เวอร์ชันไทยชัดๆ หยิบมาดูไวไปหน่อย ถ้ารอคริสมาสต์แล้วได้มาดูอะไรแบบนี้คงเต็มอิ่มกับเทศกาล เหงาๆ หนาวๆ

-พี่มะเดี่ยวก็ยังคงเป็นพี่มะเดี่ยวที่มีพลังขยี้สิบแรงมือ ไม่รู้จะขยี้อะไรขนาดนั้น น้ำตาหนูไหลไม่ทันแล้วพี่ มันทุกจุด ทุกช็อตจริงๆ ทุกสิ่งที่ตัวละครพูด หรือทำ ทุกแววตาที่แต่ละตัวละครมองกัน มันดูมีความหมายไปซะหมด คุณภาพคับแก้วจริงๆ

 

รีวิว รักแห่งสยาม03

-เป็นหนังLGBTที่เก่า แต่มีความคลาสสิคและได้อารมณ์ลึกลงไปในใจ ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความรัก ความรู้สึก ความเหงา ได้ทุกมู้ดทุกอารมณ์แบบลึกซึ้งอ่ะ ไม่ใช่มาแค่ผิวเผินแล้วก็จากไป แต่เป็นความรู้สึกที่เรียกได้ว่ากัดกินหัวใจไม่น้อยเลยทีเดียว ดูหนังออนไลน์

-เราชอบการเล่าเรื่องของหนัง มันดูไปเรื่อยๆ แต่ก็ทวีความรู้สึกที่กดทับหัวใจให้มันมากขึ้นๆ เก็บรายละเอียดในแต่ละซีนแล้วเอามาขยี้ทีหลัง คือแบบ เห้ยมันกินใจมาก โดยเฉพาะการเอาเพลงมาเป็นส่วนนึงในการขับเคลื่อนตัวหนัง มันโรแมนติกแบบหน่วงๆ เอาจริงๆ เพลงนี่มันช่วยขับเคลื่อนความรู้สึกได้เยอะเหมือนกันนะ ทั้งตัวเนื้อร้อง ทำนอง เมโลดี้ เสียงร้องและอินเนอร์ของพี่พิชชี่ที่ทุกครั้งเวลาร้องเพลงให้มาริโอนี่คือเรายิ้มนะ มีความสุขมาก แต่ในใจลึกๆโคตรหน่วงเลย

 

-นักแสดงคือสมแล้วจริงๆที่เข้าชิงกันทุกคน ทุกอย่างมันโฟลว ธรรมชาติ เหมือนไม่ได้มีบทให้ท่อง สายตาของมาริโอกับพิชชี่นี่คือได้มาก เรารู้เลยว่าทั้งสองคนคิดอะไรยังไงอยู่ เป็นหนัง 2 ชั่วโมงครึ่งที่เหมือนผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง แต่ความรู้สึกในใจกลับเหมือนถูกตราตรึงไม่มีวันหายไปไหน 12 ปีที่ผ่านไปไม่ได้ทำให้หนังเรื่องนี้เก่าเกินจะดูเลยซักนิดเดียว

ดูแล้วอยากวาร์ปไปเดินสยามตอนนี้เลย
เทศกาลคริสมาสต์นี่มันเข้ากับความรักจริงๆเล้ย
ถึงอากาศจะหนาว
ถึงคู่รักรอบๆจะทำให้เหงาไปบ้าง
แต่แค่ได้กลับบ้านมานอนในห้องอุ่นๆ นอนดูรักแห่งสยามวนไป หัวใจก็อบอุ่นขึ้นมาแล้วแหละเนอะ

– เป็นหนังLGBTที่เก่า แต่มีความคลาสสิคและได้อารมณ์ลึกลงไปในใจ ดูแล้วสัมผัสได้ถึงความรัก ความรู้สึก ความเหงา ได้ทุกมู้ดทุกอารมณ์แบบลึกซึ้งอ่ะ ไม่ใช่มาแค่ผิวเผินแล้วก็จากไป แต่เป็นความรู้สึกที่เรียกได้ว่ากัดกินหัวใจไม่น้อยเลยทีเดียว

-เราชอบการเล่าเรื่องของหนัง มันดูไปเรื่อย ๆ แต่ก็ทวีความรู้สึกที่กดทับหัวใจให้มันมากขึ้น ๆ เก็บรายละเอียดในแต่ละซีนแล้วเอามาขยี้ทีหลัง คือแบบ เห้ยมันกินใจมาก โดยเฉพาะการเอาเพลงมาเป็นส่วนนึงในการขับเคลื่อนตัวหนัง มันโรแมนติกแบบหน่วง ๆ เอาจริง ๆ เพลงนี่มันช่วยขับเคลื่อนความรู้สึกได้เยอะเหมือนกันนะ ทั้งตัวเนื้อร้อง ทำนอง เมโลดี้ เสียงร้องและอินเนอร์ของพี่พิชชี่ที่ทุกครั้งเวลาร้องเพลงให้มาริโอนี่คือเรายิ้มนะ มีความสุขมาก แต่ในใจลึก ๆโคตรหน่วงเลย

-นักแสดงคือสมแล้วจริง ๆ ที่เข้าชิงกันทุกคน ทุกอย่างมันโฟลว ธรรมชาติ เหมือนไม่ได้มีบทให้ท่อง สายตาของมาริโอกับพิชชี่นี่คือได้มาก เรารู้เลยว่าทั้งสองคนคิดอะไรยังไงอยู่ เป็นหนัง 2 ชั่วโมงครึ่งที่เหมือนผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง แต่ความรู้สึกในใจกลับเหมือนถูกตราตรึงไม่มีวันหายไปไหน 12 ปีที่ผ่านไปไม่ได้ทำให้หนังเรื่องนี้เก่าเกินจะดูเลยซักนิดเดียว

 

 

ดูแล้วอยากวาร์ปไปเดินสยามตอนนี้เลย
เทศกาลคริสมาสต์นี่มันเข้ากับความรักจริงๆเล้ย
ถึงอากาศจะหนาว
ถึงคู่รักรอบ ๆ จะทำให้เหงาไปบ้าง
แต่แค่ได้กลับบ้านมานอนในห้องอุ่น ๆ นอนดูรักแห่งสยามวนไป หัวใจก็อบอุ่นขึ้นมาแล้วแหละเนอะ

จุดเปลี่ยนแรกของครอบครัวโต้งคือการสูญเสียแตง พี่สาวคนโตของครอบครัวไปจากการหลงป่า จุดนี้เป็นจุดที่ทำให้ครอบครัวที่เคยสมบูรณ์แบบเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยทีเดียว ในมุมมองของผมมองว่าการสูญเสียแตงไปทำให้เกิดตัวละครสองตัวที่สะท้อนความคิดใต้จิตใจของมนุษย์ต่อการสูญเสียคนที่รักไป ผ่านตัวละคร “สุนีย์” และ “กร”

“สุนีย์” เป็นภาพสะท้อนของ “คนที่พยายามหลีกหนีความจริงจากการสูญเสีย” ไม่ผิดหรอกครับที่คนเราจะต้อง move on และเดินหน้าต่อไป แต่สำหรับสุนีย์นั้นมันไม่ใช่แค่การมูฟออน แต่มันคือการทิ้งความจริงทั้งหมดไว้ข้างหลัง เพื่อพยายามให้ตัวเอง(และครอบครัว) หลุดพ้นจากความเจ็บปวดไปได้ ในฉากหนังเราจะเห็นการย้ายบ้านของโต้ง เหตุผลหนึ่งผมมองว่าสุนีย์พยายามจะพาทุกคนออกไปจากบรรยากาศที่มีแตงเคยอยู่ หรือหลายครั้งที่สุนีย์พยายามไม่พูดถึงเรื่องราวในอดีตของแตง เช่น ฉากที่สุนีย์นั่งดูทีวีกับโต้ง แล้วกรเดินถือรูปถ่ายที่มีแค่สามคน แต่ไม่มีแตงมาถามว่า

“แตงหายไปไหน?”

ซึ่งสุนีย์ก็ตอบกลับอย่างปัด ๆ ว่า “ไปกับเพื่อนแล้วมั้ง ฉันจำไม่ได้”

กรก็ซักต่อว่า “แล้วทำไมไม่เอารูปที่มีแตงมาวางล่ะ”

ทำให้สุนีย์ถึงกับอารมณ์ขึ้นแล้วเหวี่ยงกลับไปว่า “ก็เพราะว่ามันไม่มีเขาแล้วอะสิ”

จากเรื่องราวเหล่านี้มันสะท้อนให้เห็นว่าสุนีย์พยายามที่จะหนีจากความเจ็บปวดแบบสุดโต่ง คือไม่พูดถึง ไม่กล่าวถึง พยายามทำให้ครอบครัวของตนเองลืมแตงไปให้ได้ แต่ผมเชื่อว่าสุนีย์รู้ดีว่า “เขากำลังหลอกตัวเอง”

มาดูอีกด้านหนึ่ง “กร” ผู้เป็นพ่อที่รู้สึกผิดต่อตัวเองอย่างมากที่อนุญาตให้ลูกไปเที่ยวกับเพื่อนต่อจนนำมาซึ่งเหตุการณ์สะเทือนใจครั้งใหญ่ของครอบครัว ทำให้กรเศร้ามาก และสุดท้ายหันมาพึ่งเหล้าแทน สำหรับผมมองว่า

“กรเป็นตัวแทนของคนที่จมอยู่กับอดีต”
ในขณะที่สุนีย์พยายามมูฟออน แต่กรกลับทำทุกอย่างตรงกันข้าม เขาเฝ้านึกถึงเหตุการณ์นั้นอยู่ตลอดและโทษตัวเองเสมอ ฉากเดียวกันกับข้างบนและอีกหลายฉากในเรื่องที่กรจะเปิดดูรูปถ่าย และถามคนนั้นคนนี้อยู่เสมอว่าแตงไปไหน ทั้งที่ความจริงผมว่ากรรู้ดีอยู่แล้วว่าแตงไม่มีทางกลับมา และเขาสูญเสียลูกสาวของเขาไปแล้วจริง ๆ จึงประชดชีวิตตัวเองด้วยจมอยู่กับกองเหล้าตลอดเวลา

 

 

เมื่อผลจากการเดินทางตรงกันข้ามของผู้เป็นพ่อและแม่ ทำให้ผลกรรมตกมาอยู่ที่ “โต้ง” กลายเป็นว่าโต้งขาดความเป็นตัวเองไปหลังจากสูญเสียแตง ผมสังเกตจากการที่ในช่วงวัยเด็ก(เก้า จิรายุ) โต้งมีความเป็นคนขี้เล่นและเป็นตัวเองมากกว่า แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์สูญเสียครั้งนั้นขึ้น โต้งกลายเป็นอีกคนที่นิ่ง ๆ ไม่หือไม่อือกับอะไรทั้งนั้น แม้กระทั่งกับความรักที่มีกับโดนัท (เบสท์ อธิชา) ก็ตาม ในช่วงที่โต้งกำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเต็มตัว เขาจึงไม่รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง ว่าเขาต้องการอะไร ดูหนังออนไลน์ 

จุดเปลี่ยนที่สองของครอบครัวนี้ คือการกลับเข้ามาของมิว และการที่ได้รู้จักกับจูน หญิงสาวที่มีหน้าตาคล้ายกับแตงอย่างกับคนเดียวกัน

การเข้ามาของจูน(ที่หลอกกรว่าเป็นแตง) ทำให้บรรยากาศภายในครอบครัวดูเหมือนจะดีขึ้น ที่บอกว่าดูเหมือนจะดี ความหมายก็คือยังไม่ดีนั่นเองครับ เพราะทุกอย่างที่เข้ามาทำให้ทุกตัวละครเกิดการหลอกตัวเองขึ้น ในมุมนี้สุนีย์ก็พยายามหลอกตัวเองว่าการที่จูนปลอมเป็นแตงจะช่วยทำให้สามีของเธอยอมเข้ารับการรักษาอาการติดเหล้า

ส่วนกรที่มีท่าทีเปลี่ยนไป ผมกลับมองว่าในเรื่องราวนี้ กรรู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แตง เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาเชื่ออย่างสนิทใจไปแล้วว่าแตงไม่ได้อยู่แล้ว แต่เขาก็เลือกทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อหลอกตัวเองในเรื่องความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต ผมตีความจากการเล่นเกมหาสมบัติของกร อย่างที่โต้งบอกแหละครับว่ามันเป็นเกมประจำครอบครัว แปลว่ากรมีอะไรจะให้กับแตง(จูน) แต่สุดท้ายจูนก็เล่นไปไม่ถึงที่กรจะให้ ผมว่ากรไม่ได้ลืมอย่างที่โต้งบอกหรอก แต่เรื่องนี้ทำให้กรรู้ว่าถ้าเป็นแตงจริง ๆ แตงคงไม่หยุดเล่นแค่นี้แน่ หรือฉากเปิดดูอัลบั้มรูปที่กรก็พยายามหลอกถามให้แตงเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ จนไปถึงรูปเจ้าปัญหาที่ไม่มีแตง จูนบอกว่าแตงคงไปกับเพื่อนแล้ว ถึงไม่ได้อยู่ในรูป เหตุการณ์เหล่านี้น่าจะทำให้กรมั่นใจได้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่แตง เขาสูญเสียแตงไปแล้วจริง ๆ ดังนั้นมันจึงสะท้อนออกมาที่มีฉากที่กรเข้าโรงพยาบาล แล้วจูนบอกกับสุนีย์ว่าถึงเขาจะเข้ามา แต่กรก็ไม่เคยหยุดกินเหล้าเลย ถ้าในแง่หนึ่งอาจจะมาจากอาการติดเหล้า แต่ในมุมหนึ่งผมกลับมองว่ามันสะท้อนว่ากรรู้ความจริงทุกอย่าง และยังจมอยู่กับอดีตเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ดูหนังฟรี

 

 

ผมชอบการแสดงของมาริโอ้ เมาเร่อเรื่องนี้มากนะ คือเราอยู่ในยุคที่ติดภาพเขาจากบทแบบอื่นไปแล้วแต่พอมาเรื่องนี้เรากลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่แบบในเรื่องอื่น เรารู้สึกว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่รู้สึกมีปมทางครอบครัวจริงๆ มันเป็นตัวละครที่ดูอึดอัดแปลกๆและมาริโอ้เดินเรื่องได้ดีเลย แต่ที่ดีกว่าคงเป็นตัวแม่อย่างนก สินใจ และพ่ออย่างกบ ทรงสิทธิ์ที่การเข้าฉากร่วมกันเป็นอะไรที่อลังมากกก มันให้ความขนลุกแบบแปลกๆจากการแสดงของพวกเขา ยิ่งบทที่เขียนมาแล้วต้องใช้อารมณ์เป็นหลักซึ่งพวกเขาทำออกมาได้ดีมากยิ่งทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นไปอีก

เรื่องนี้มีอะไรดีๆมากกว่าฉากเกย์ที่ทุกคนพูดถึงกันนะ ทั้งประเด็นสังคมเรื่องเพศด้วย เรื่องครอบครัวที่หลักกว่า เราชอบมาก เรื่องนี้พูดถึงปัญหาในครอบครัวออกมาได้ดีมาก ถ่ายทอดปัญหาระหว่างตัวละคร ความสัมพันธ์ต่างๆ ยิ่งการเปลี่ยนไปจนน่ากลัวภายในครอบครัวที่สร้างบรรยากาศออกมาได้ดี เอาเป็นว่าเราไม่อยากให้ทุกคนพลาดหนังเรื่องนี้ไปเพราะคิดว่าเป็นหนังรักวัยรุ่นธรรมดา ที่จริงมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ เว็ปดูหนังฟรี

 

 

สรุปว่าหนังวายเรื่องนี้ควรค่าแก่การดูหรือไม่

สำหรับหนังวายของพี่ไทยเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนังชั้นดีอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ที่สื่อเรื่องราวของความรักที่ไม่จำกัดเพศ หรือแม้กระทั่งความรัก ความเข้าใจของคนในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นหนังที่ทำออกได้ดีมากๆ แบบไร้ที่ติกันเลยทีเดียวเชียวล่ะคุณ เพราะฉะนั้น ห้ามพลาดหนังวายน้ำดีเรื่องเป็นเป็นอันขาดครับ

เพื่อนๆสามารถติดตามการรีวิวหนังวาย ซีรีย์วาย สนุกๆ กันได้ที่นี่ รีวิวหนังวาย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *